อินโดฯ เผยผลสอบเบื้องต้นไลอ้อนแอร์ตก ไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัยด้านการบิน ข้อมูลกล่องดำเผยนักบินพยายามบังคับเครื่องบินเชิดหัวขึ้นกว่า 11 ครั้ง ขณะที่ระบบ anti satll ก็กดเครื่องบินทิ่มหัวลงต่อเนื่อง ก่อนนักบินจะสูญเสียการควบคุม

เมื่อ 28 พ.ย.61 สำนักข่าวรอยเตอร์ และเว็บไซต์ เดลี่เมล ในอังกฤษ รายงาน คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งของอินโดนีเซีย (KNKT) เปิดเผยรายงานเบื้องต้นการสอบสวนกรณีโศกนาฏกรรมเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 737Max8 ของสายการบินไลอ้อน แอร์ เที่ยวบิน JT610 จาการ์ตา-ปังกัลปีนัง ประสบเหตุตกในทะเลชวา หลังบินขึ้นเพียง 13 นาที เป็นเหตุให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตหมดทั้งลำ 189 ราย เมื่อเช้าวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า เครื่องบินไลอ้อนแอร์ลำนี้ไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัยด้านการบิน โดยนักบินหลายคนที่ขับเครื่องบินลำนี้ ล้วนแต่ประสบปัญหาคล้ายกันก่อนเครื่องบินลำมรณะจะตกทะเล

รายงานของ KNKT เมื่อวันพุธที่ 28 พ.ย. เผยรายละเอียดเกี่ยวกับความพยายามของนักบินหลายคนที่ขับเครื่องบินโบอิ้ง 737 Max8 ลำนี้ว่า ล้วนแต่รายงานพบปัญหาที่ระบบไฟลต์ คอนโทรล ขณะที่บันทึกด้านเทคนิค ระบุไว้ว่า เครื่องบินลำนี้ถูกนำมาให้บริการได้ 2-3 เดือน แต่มีปัญหาที่ระบบเครื่องตรวจวัด หนึ่งวันก่อนตก เพราะระบบอ่านความเร็วเชื่อถือไม่ได้

...

ข้อมูลที่กู้ได้จากกล่องดำ บันทึกข้อมูลการบิน ซึ่งเป็นกล่องดำแรกที่พบ แสดงให้เห็นว่า หลังกัปตันนำเครื่องบินทะยานขึ้นจากสนามบินจาการ์ตา ปรากฏว่า ระบบ Stick Shaker หรือระบบสั่นคันบังคับ(เตือนความเร็วกำลังเข้าใกล้ความเร็วร่วงหล่นแล้ว) ได้เตือนเป็นส่วนใหญ่ตลอดเที่ยวบิน อีกทั้งกัปตันยังพยายามบังคับเครื่องบินให้เชิดหัวขึ้นมากกว่า 11 ครั้ง ขณะที่ระบบอัตโนมัติ anti-stall ทำให้เครื่องบินหัวทิ่มลง กระทั่งนักบินสูญเสียการควบคุม เครื่องบินดิ่งตกทะเล

รายงานของ KNKT พบว่า นักบินที่ขับเครื่องบินลำนี้ หนึ่งวันก่อนตก ได้ประสบปัญหาขณะนำเครื่องบินขึ้นจากสนามบินเดนปาซาร์ บนเกาะบาหลี มายังจาการ์ตา กระทั่งกัปตันและนักบินผู้ช่วยต้องปิดสวิตช์ระบบ และใช้การควบคุมแบบแมนนวล หรือขับเครื่องบินด้วยตนเอง เพื่อให้เครื่องบินบินได้อย่างปกติ โดยเมื่อนำเครื่องบินมาถึงปลายทาง นักบินได้แจ้งปัญหาต่อทีมซ่อมบำรุงของสายการบินไลอ้อนแอร์ ซึ่งจากนั้นได้มีการตรวจเช็ก ซ่อมแซม และอนุญาตให้นำเครื่องบินขึ้นบินได้ในเช้าวันรุ่งขึ้น

รอยเตอร์ชี้ว่า รายงานเบื้องต้นของ KNKT ระบุว่า ปัญหาที่พบควรถูกพิจารณาว่าเครื่องบินไม่มีความปลอดภัยตามมาตรฐานการบิน และไม่ควรให้ทำการขึ้นบินต่อ อย่างไรก็ตาม นายนูร์คาห์โย อูโตโม เจ้าหน้าที่สอบสวนของ KNKT กล่าวว่า ทาง KNKT ยังไม่ได้ระบุชี้ชัดว่า ระบบ anti-stall เป็นปัจจัยที่ทำให้เครื่องบินตก และคงเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ไลอ้อนแอร์ตกทะเล