ชื่อ “เอเซีย บิบี” หรือ “เอเซีย โนรีน” สตรีชาวปากีสถานที่นับถือศาสนาคริสต์ ตกเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก หลังศาลสูงตัดสินเมื่อ 31 ต.ค. ให้ปล่อยตัวเธอในคดี “หมิ่นศาสนา” โดยชี้ว่าหลักฐานไม่เพียงพอ
เอเซีย บิบี ถูกศาลชั้นต้นตัดสินประหารชีวิตในปี 2553 หรือ 8 ปีก่อน มูลเหตุมาจากการทะเลาะกับกลุ่มสตรีเพื่อนบ้านชาวมุสลิมขณะเก็บผลไม้เมื่อเดือน มิ.ย.2552 โดยเอเซีย บิบี ใช้ถ้วยตักน้ำในถัง แต่กลุ่มสตรีมุสลิมกล่าวว่าพวกเธอไม่อาจใช้ถ้วยใบนั้นได้อีกต่อไป เพราะถูกสัมผัสโดยคนนอกศาสนา ทำให้ไม่บริสุทธิ์สะอาด พร้อมทั้งแนะให้เอเซีย บิบี เปลี่ยนมานับถืออิสลาม
อัยการระบุว่า ทั้งสองฝ่ายมีปากเสียงกัน และเอเซีย บิบีตอบโต้ พูดจาจาบจ้วงศาสดา มูฮัมหมัด จากนั้นมีฝูงชนบุกไปทุบตีเธอที่บ้าน และกลุ่มผู้กล่าวหาเธออ้างว่าเธอยอมรับสารภาพว่าหมิ่นอิสลามจริง มีการไปแจ้งความและถูกตำรวจจับ เมื่อคดีถึงศาลก็ถูกตัดสินประหารชีวิต
แต่ศาลสูงตัดสินกลับคำพิพากษานั้น ชี้ว่าหลักฐานอ่อนเชื่อถือไม่ได้ และเธอสารภาพต่อหน้าฝูงชนซึ่งขู่จะฆ่าเธอ เป็นเพราะความหวาดกลัว จึงตัดสินให้เธอพ้นผิด แต่คำตัดสินของศาลสูงทำให้กลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง นำโดยพรรค “เตห์รีค-ไอ-ลาเบียค” (ทีแอลพี) ก่อจลาจลรุนแรงทั่วประเทศ เรียกร้องให้แขวนคอเอเซีย บิบี
ส่วนผู้พิพากษาศาลสูงที่ตัดสินให้เธอพ้นผิดก็ถูกขู่ฆ่า ทนายของเธอกลัวตายจนหนีออกนอกประเทศ ขณะที่สามีของเธอวิงวอนให้อังกฤษ สหรัฐฯ หรือแคนาดา รับตัวเธอและครอบครัวซึ่งมีลูกสาว 2 คนไปลี้ภัย เพราะชีวิตตกอยู่ในอันตรายสูงสุด ต้องพากันหลบๆ ซ่อนๆ เปลี่ยนที่อยู่ตลอดเวลา
รัฐบาลปากีสถานพยายามดับไฟจลาจลด้วยการเจรจากับพรรคทีแอลพี และบรรลุข้อตกลงกันได้ โดยสั่งห้ามเอเซีย บิบี เดินทางออกนอกประเทศ และอนุญาตให้กลุ่มผู้ประท้วงยื่นคัดค้านคำตัดสินของศาลสูงได้ ชะตากรรมของเธอจึงยังไม่แน่นอน และอาจมีอันตรายกว่าเดิมด้วยซ้ำ
...
อิสลามเป็นศาสนาประจำชาติและเป็นรากฐานของระบบกฎหมายปากีสถาน ประชาชนก็สนับสนุนกฎหมายหมิ่นอิสลามอย่างเข้มข้น เหล่านักการเมืองหัวรุนแรงก็หนุนการลงโทษผู้หมิ่นศาสนาอย่างรุนแรง ส่วนหนึ่งเพื่อรักษาฐานคะแนนของตน แต่มีผู้ชี้ว่ากฎหมายนี้มักถูกใช้เป็นเครื่องมือแก้แค้นคู่อริหลังมีข้อพิพาทส่วนตัว
ผู้ถูกศาลตัดสินว่าหมิ่นอิสลามส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมหรือชุมชนอาห์มาดี แต่ตั้งแต่ทศวรรษ 1990 เป็นต้นมา ชาวคริสเตียนซึ่งมีอยู่แค่ 1.6% ของประชากรปากีสถาน ถูกตัดสินมีความผิดในข้อหาหมิ่นอิสลามมากขึ้น
ตั้งแต่ ค.ศ.1990 มีผู้เสียชีวิตจากการถูกกล่าวหาว่าหมิ่นอิสลามแล้วอย่างน้อย 65 คน!
บวร โทศรีแก้ว