การฆาตกรรมคนเพียงคนเดียวไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่โต ถ้าไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลังเพื่อจะใช้กรณีนี้เป็นความชอบธรรมในการลงโทษ ควบคุม หรือไถ ประเทศใดประเทศหนึ่ง การหายตัวไปของนายจามาล คาช็อกกี อายุ 59 ปี นักข่าว นักหนังสือพิมพ์ และนักจัดรายการโทรทัศน์ชาวซาอุดีอาระเบีย อาจจะเป็นประเด็นหนึ่งที่ทำให้ซาอุฯ ต้องเดินเข้าไปสู่กับดักที่จะทำให้ตนต้องจ่ายเงินอีกบานเบอะเยอะแยะเพื่อสร้างความพอใจให้กับมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ
2 ตุลาคม 2561 ทรัมป์ไปพูดให้ผู้คนในรัฐมิซซิสซิปปีว่า “เราปกป้องซาอุดีอาระเบีย พูดได้ว่าพวกเขารวย และผมรักกษัตริย์ซัลมาน ผมพูดว่า ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท เราปกป้องพระองค์ พระองค์จะไม่สามารถอยู่ตรงนั้นเกิน 2 สัปดาห์ได้เป็นแน่หากไม่มีพวกเรา”
ทรัมป์กล่าวปราศรัยกับผู้คนโดยไม่ได้บอกว่าตัวเองได้พูดกับกษัตริย์ซัลมานของซาอุฯ เมื่อใด แต่คำพูดของทรัมป์ตามที่เราอ่านจากสื่อต่างประเทศก็รู้สึกว่า เป็นคำคุยโม้โอ้อวด และพูดข่มพันธมิตรของตน ผู้อ่านท่านก็ทราบว่า ซาอุดีอาระเบียยืนอยู่ข้างสหรัฐฯ ในทุกสถานการณ์ และเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง
2 ตุลาคม 2561 ขณะที่ทรัมป์ปราศรัยที่รัฐมิสซิสซิปปี นายคาช็อกกีก็เดินเข้าไปในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในนครอิสตันบูลแล้วก็หายตัวไป ไม่ออกมาอีกเลย
นายคาช็อกกีเป็นสื่อมวลชนที่มีความรู้ลึกซึ้งถึงการเมืองในตะวันออกกลาง และมีเส้นสายระโนงโยงเยงไปในประเทศต่างๆ รวมทั้งในซาอุดีอาระเบียบ้านเกิดอีกด้วย ระยะหลังนายคาช็อกกี เริ่มวิพากษ์วิจารณ์เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย จนนายคาช็อกกีรู้สึกว่าสถานะของตนเองไม่ค่อยปลอดภัย จึงลี้ภัยมาพำนักพักอาศัยอย่างได้สิทธิถูกต้องตามกฎหมายในสหรัฐฯ และปฏิบัติหน้าที่คอลัมนิสต์ประจำคอลัมน์เวิลด์วิว ให้กับหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2560
...
พฤษภาคม 2561 มีงานสัมมนาที่นครอิสตันบูล นายคาช็อกกีเดินทางมาร่วมงานสัมมนานี้ด้วย และได้พบรักกับสาวตุรกีวัย 36 ปี นามว่า ฮาทิเช เชนกิซ จากนั้นก็ตัดสินใจแต่งงานกัน ก่อนหน้านี้ นายคาช็อกกีเคยแต่งงานกับสตรีซาอุฯ มีบุตรและหย่าขาดกันอย่างเป็นทางการ ตามกฎหมายตุรกี ผู้ที่จะแต่งงานต้องพิสูจน์ว่าไม่มีภรรยาอยู่ในขณะนั้น คาช็อกกีจึงไปที่สถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบียในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. แทนที่เจ้าหน้าที่สถานทูตจะจัดการเรื่องให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ตรวจสอบการหย่าร้างและรีบออกเอกสารให้นายคาช็อกกี กลับมีเลศนัยให้เดินทางไปติดต่อสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในนครอิสตันบูล
28 กันยายน 2561 นายคาช็อกกีเดินทางเข้าไปในสถานกงสุลซาอุฯ ในนครอิสตันบูล เจ้าหน้าที่สอบถามข้อมูลแล้วก็บอกว่าจะตรวจสอบ และให้เดินทางมารับเอกสารยืนยันการหย่าร้างในตอนบ่ายของวันที่ 2 ตุลาคม 2561
นายคาช็อกกีกับนางเชนกิซว่าที่ภรรยาเดินทางไปสถานกงสุล ได้รับการบอกให้นางเชนกิซรออยู่ข้างนอก และให้นายคาช็อกกีเดินเข้าไปในอาคารสถานกงสุลเพียงคนเดียว เข็มนาฬิกาเดินติ๊กๆ นานถึง 11 ชั่วโมง ว่าที่สามียังไม่ออกมา นางเชนกิซจึงไปแจ้งตำรวจ มีการรายงานต่อไปยังนายเออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี รวมทั้งส่งข่าวต่อไปถึงวอชิงตันโพสต์และรอยเตอร์
เมื่อสอบถามไปยังสถานกงสุลและรัฐบาลซาอุดีอาระเบียก็ได้รับคำตอบว่า นายคาช็อกกีออกจากสถานกงสุลไปนานแล้ว นอกจากนั้น เมื่อมีการขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด สถานกงสุลก็บอกว่า ในวันที่ 2 ตุลาคม 2561 กล้องวงจรปิดขัดข้องทั้งวัน
เรื่องนี้มีการสืบสวนหาข่าวกันหลายคณะ เพราะเกี่ยวข้องกับคอลัมนิสต์ที่มีชื่อเสียง และเกี่ยวกับประเทศที่มหาอำนาจอยากจะโยนความผิดไปให้เพื่อสร้างความชอบธรรมในการให้ทำในสิ่งที่มหาอำนาจต้องการ ฝีมือระดับโลกสอบสวนการฆาตกรรมทำได้ไม่ยากครับ สุดท้ายก็ได้ข้อมูลที่นำมาปะติดปะต่อจนเข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างครบถ้วน
พรุ่งนี้มาว่ากันต่อครับ.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com