วัดวชิรธรรมาวาส เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ สร้างเนื่องใน วโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เสด็จพระราชสมภพครบ 200 ปี จะมีงานทอดกฐินสามัคคี พ.ศ.2561 ในวันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน 2561 ท่านใดต้องการร่วมทำบุญ ติดต่อได้ที่ พระปลัดวงกต ฐิตสิริ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส 08-9055-9691 ครับ
2-3 เรื่องที่มาเลเซียมีความเสี่ยงที่จะขัดแย้งกับจีน อันดับแรกเลยก็คือ พอได้รัฐบาลใหม่ ดร.มหาธีร์เป็นนายกรัฐมนตรี แกก็ประกาศยกเลิกโครงการรถไฟความเร็วสูงมาเลเซีย-สิงคโปร์ รวมทั้งไม่เอาโครงการรถไฟทางคู่ฝั่งตะวันออกที่อดีตนายกฯ นาจิบ ราซักไปลงนามกับจีนเพื่อสนับสนุนโครงการเส้นทางสายไหมใหม่ของจีน
เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ล่าสุดไม่นานมานี้ก็คือ รัฐบาลมาเลเซียปล่อยตัวบุคคลสัญชาติจีนเชื้อชาติเหวย อู๋ เอ่อร์ หรืออุยกูร์ 11 คน และทั้งหมดบินออกจากมาเลเซียไปตุรกีเมื่อวันอังคารที่ 9 ตุลาคม 2561 เรื่องนี้ทุกคนก็พอทำนายทายเดากันได้นะครับ ว่าเป็นการสร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลจีนอย่างแรง และทุกคนก็กำลังเฝ้าดูอยู่ว่าจีนจะเอาคืนมาเลเซียอย่างไร
เรื่องของเหวย อู๋ เอ่อร์หรืออุยกูร์มีคนสงสัยกันเยอะครับ ว่ามีความเป็นมาอย่างไร คนอุยกูร์ลำบากมาตั้งแต่ในอดีตครับ โดยเฉพาะพวกที่อยู่แถบหุบเขาคุนหลุน หุบเขาคาลา-คุนหลุน และหุบเขาเทียนซาน ซึ่งแถวนี้มีอากาศหนาวเย็นมาก และขาดแคลนแหล่งน้ำ พวกขุนนางชาวฮั่นมักจะครอบครองแหล่งน้ำและกดขี่ชาวเหวย อู๋ เอ่อร์ที่ต้องไปเช่าแหล่งน้ำหรือซื้อน้ำเพื่อให้ชีวิตของพวกตนอยู่รอด ชนเผ่านี้จึงมีความกดดันและต่อต้านอำนาจรัฐฝังอยู่ในสายเลือด
เพราะความขัดแย้งที่ฝังรากลึกมายาวนานตั้งแต่ในอดีตทำให้รัฐบาลจีนในปัจจุบันไม่ไว้ใจชาวเหวย อู๋ เอ่อร์ เพราะอาจจะมีการกระดิกพลิกตัวต่อต้านรัฐและแบ่งแยกดินแดนได้ในอนาคต บางนโยบายของรัฐบาลจีนก็ใช้ความนุ่มนวล เมื่อไม่ได้ผลก็ใช้ความรุนแรงเข้าปราบปราม การถูกขูดรีดรังแกก็ยิ่งสร้างความขัดแย้งมากขึ้น
...
สมัยก่อน พวกราชวงศ์จีนเก็บภาษีชาวเหวย อู๋ เอ่อร์หลายอย่าง ทั้งภาษีอู๋โสวเอ่อร์ ที่เก็บจากผลผลิตหนึ่งในสิบ และภาษีจาข่าเท่อ ซึ่งก็คือภาษีที่ได้จากผลผลิตหนึ่งในสี่สิบของผลผลิตทั้งปี นอกจากนั้นยังมีภาษีที่มอบให้คนชั้นสูง เช่น ภาษีการซื้อขายทรัพย์ การเช่า การยืม การสืบทอดทรัพย์ การจำนอง การครอบครองสัตว์เลี้ยง การฟ้องร้อง ฯลฯ ทำให้ชาวเหวย อู๋ เอ่อร์ลำบากแสนสาหัส
ท่านที่ไปเยือนดินแดนของชาวเหวย อู๋ เอ่อร์ ก็คงจะนึกถึงคำพูดที่ว่า “เมืองแห่งผลไม้และเมล็ดแตง” นะครับ นอกจากเลี้ยงสัตว์แล้ว พวกเหวย อู๋ เอ่อร์ยังชอบปลูกพืชเมล็ด ลูกท้อก็มีเยอะ ถั่วอัลมอนด์ องุ่น แตงหวาน แอปเปิ้ล ที่ขายกันในตลาดจีนทั่วประเทศมาจากเขตการปกครองซินเจียงอุยกูร์ ผมเคยแนะนำไปครั้งหนึ่งแล้วว่าถ้าใครไปเที่ยวดินแดนของชาวเหวย อู๋ เอ่อร์ก็อย่าลืมซื้อไหมปักจากอำเภอซาเชอ หมวกปักจากเมืองคาสือ บุหรี่โม่เหอและถุงน่องจากเมือง อีหนิง เครื่องมือเกษตรจากอำเภอคู่เชอ เคียวเกี่ยวข้าวจากเมืองอูรุมชี หยกจากเมืองเหอเถียนและรั่วเชียง
สิ่งที่น่าสนใจไปเรียนจากพวกเหวย อู๋ เอ่อร์ก็คือ การแพทย์แผนอุยกูร์ ที่เรียกว่า เหวยอี เป็นการแพทย์ที่มีชื่อเสียงมากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พวกนี้จะเก่งเรื่องการรักษาภายใน จักษุแพทย์ แพทย์ผิวหนัง สูติแพทย์ กุมารเวช ฯลฯ
เดี๋ยวนี้มีความก้าวหน้าเทคโนโลยีทางการแพทย์ สามารถพิสูจน์ดีเอ็นเอ ก็ทำให้ได้ทราบว่าใครมาจากไหน มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกันหรือไม่ เทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้คนตุรกีเชื่อว่าชาวเหวย อู๋ เอ่อร์หรืออุยกูร์เป็นกลุ่มเผ่าพันธุ์เดียวกับตน แถมยังนับถือศาสนาเดียวกัน
เรื่องเหวย อู๋ เอ่อร์หรืออุยกูร์นี่ เจ้าหน้าที่รัฐประเทศไหนศึกษาไม่ละเอียดลึกซึ้ง มีโอกาสปฏิบัติงานพลาด อาจจะนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งกันกับจีนและ/หรือตุรกี ได้ครับนะครับ.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com