ในปี พ.ศ.2532 องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือองค์การนาซาได้ส่งยานอวกาศกาลิเลโอ (Galileo) ไปสำรวจดาวพฤหัสบดี ขณะที่ยานอยู่นอกโลก นักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ชื่อคาร์ล เซแกน ได้ขอให้เครื่องมือบนยานมองกลับมาที่โลกเพื่อดูว่ามีแสงสะท้อนจากดาวเคราะห์ที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่นั้นเป็นอย่างไร กระทั่งในเดือน ธ.ค. ปี พ.ศ.2533 ก็พบความโดดเด่นของสะท้อนระหว่างสเปกตรัมสีแดงและรังสีอินฟราเรด ซึ่งมาจากการเติบโตของพืช

ทั้งนี้ ประวัติทางธรณีวิทยาในช่วง 500 ล้านปีที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่าผิวโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก จากการมีน้ำแข็งปกคลุมจนกลายไปเป็นป่าใหญ่เต็มพื้นดิน ล่าสุด ทีมนักดาราศาสตร์จากสถาบันคาร์ล เซแกนแห่งมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ ในสหรัฐอเมริกา เผยว่า ประวัติศาสตร์ธรรมชาติของโลกจะเป็นกุญแจสำคัญในการค้นหาสิ่งมีชีวิตในจักรวาล ซึ่งพวกเขาค้นพบแม่แบบทางพฤกษศาสตร์ที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของพืชพรรณโดยอาศัยจากยุคที่บรรดาพืชกำลังเปลี่ยนไป เพื่อที่จะระบุอายุของดาวเคราะห์นอกระบบที่อาจอาศัยอยู่ได้ แบบจำลองที่สร้างขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงสัญญาณของพืชที่เพิ่มขึ้นและจะครอบคลุมพื้นที่ผิวดาวเคราะห์ แต่ก็ยังขึ้นอยู่กับอายุของดาวเคราะห์อีกด้วย

นักดาราศาสตร์เผยว่า การสังเกตดาวเคราะห์นอกระบบเป็นสิ่งที่ท้าทายมากขึ้น เพราะบนดาวอาจแห้งแล้งจนถึงแล้งจัด ท้องฟ้าใส หรือมีป่าดิบ แต่เทคโนโลยีกล้องโทรทรรศน์ก็ได้พัฒนายิ่งขึ้นเพื่อใช้ในการจำแนกสัญญาณเล็กๆ ซึ่งอาจช่วยให้สามารถตรวจจับพืชพรรณในดวงดาวอื่นๆได้ง่ายขึ้นในอนาคต.

Credit: Jack O'Malley-James/Wendy Kenigsberg/Brand Communications