ศุกร์ที่ผ่านมา ผมรับใช้เรื่องที่รัสเซียเคยอยู่ภายใต้การปกครองของพวกเอเชียมากถึง 2 รอบ เรื่องนี้เคยทำให้พวกยุโรปบางคนปวดใจมาก ที่คนคอเคซอยด์แพ้มองโกลอยด์

ผมขอเรียนว่าการที่รัสเซียถูกพวกเอเชียปกครอง ไม่ได้มีเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้นนะครับ แม้ตอนหลังพวกสลาฟตั้งอาณาจักรใหญ่โตที่เรียกว่าอาณาจักรคีฟและมีผู้ปกครองที่เก่งกาจสามารถหลายพระองค์ อย่างเจ้าชายยาโรสลาฟ องค์นี้เก่งขนาดทำให้กรุงคีฟเป็นศูนย์กลางทางการศึกษาและเป็นคู่แข่งของกรุงคอนสแตนติโนเปิล นครหลวงของจักรวรรดิไบแซนไทน์ได้

รัสเซียสมัยนั้นก็ยังสู้พวกมองโกลไม่ได้ ระหว่าง พ.ศ.1780 จนถึง พ.ศ.1823 พวกมองโกลค่อยๆไล่ทุบเมืองรัสเซียทีละเมืองสองเมืองจนครอบครองดินแดนรัสเซียได้ทั้งหมด

ที่เราชอบเอามาคุยกันว่ารัสเซียเคยถูกคนเอเชียปกครอง ก็คงจะมาจากตอนนี้ละครับ มองโกลเป็นเจ้าใหญ่นายโตของคนรัสเซียอยู่นานมากกว่า 200 ปี ตอนที่โดนมองโกลไล่ทุบ รัสเซียเป็นมหาอาณาจักรแล้ว นับถือศาสนาคริสต์แล้ว รับเอาอารยธรรม ของพวกตะวันตกมาบานเบอะเยอะแยะแล้ว แต่ก็ยังรบแพ้พวกจากเอเชีย

200 ปีกว่าที่มองโกลปกครองรัสเซีย มองโกลไม่ให้รัสเซียติดต่อโลกภายนอก ทำให้รัสเซียถูกตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะทั้งอาณาจักรไบเแซนไทน์และโลกตะวันตก นี่แหละครับ คือสาเหตุที่ทำให้รัสเซียล้าหลังกว่าพวกตะวันตกอื่นๆ ผู้คนยากจนอย่างมาก

ไม่ว่าจะเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ขุนนาง และชาวนารัสเซียมีหน้าที่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือทำงานหนักเพื่อผลิตข้าวปลาอาหารให้กองทัพมองโกล มองโกลไม่ให้พวกรัสเซียเรียนรู้ แม้แต่พวกขุนนางก็ไม่รู้หนังสือและไม่ได้เรียนศิลปวัฒนธรรม ไม่มีระเบียบวินัย

โชคดีที่พวกมองโกลไม่บังคับให้คนรัสเซียเลิกการนับถือศาสนาคริสต์ ประชาชนรัสเซียยังปฏิบัติศาสนกิจได้ เรื่องนี้ก็จึงทำให้รัสเซียยังคงดำรงคริสต์ศาสนาได้จนถึงทุกวันนี้

...

ก่อนหน้าที่พวกมองโกลจะเข้ามาปกครอง พวกรัสเซียตามนครต่างๆ รบพุ่งกันและขาดความสามัคคี แต่พอมองโกลเข้าปกครอง อำนาจทุกอย่างก็ไปรวมศูนย์อยู่ที่กองทัพมองโกล พวกเจ้ารัสเซีย

จึงหยุดทะเลาะเบาะแว้งกัน เวลาผ่านไปได้สองร้อยปี ต่างคนต่างลืมเรื่องบาดหมางคลางแคลงใจกันได้อย่างสนิทและก็หันมาคบค้าสมาคม มีความสามัคคีกัน มารวมตัวกันจนสามารถขับไล่พวกมองโกลออกจากดินแดนของรัสเซียได้ในที่สุด

นอกจากจะเคยรบแพ้พวกเอเชียมองโกลแล้ว รัสเซียก็ยังเคยรบแพ้พวกเอเชียญี่ปุ่น เกิดสงครามรัสเซีย–ญี่ปุ่นระหว่าง พ.ศ.2447–2448 ตอนนั้นรัสเซียเติบโตจนเป็นมหาอำนาจ
ใหญ่โตแล้ว และก็อยากที่จะขยายดินแดนไปในเอเชียตะวันออก

การรบระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่นส่วนใหญ่เป็นการรบทางเรือ ที่น่าสนใจที่สุดก็คือ ยุทธนาวีที่ช่องแคบสึชิมะเมื่อ พ.ศ.2447 ที่ทำให้ญี่ปุ่นยกตัวเองเป็นมหาอำนาจทางทะเลมีฐานะเท่าเทียมกับอังกฤษได้ เพราะขนาดมหาอำนานรัสเซียยังแพ้และต้องลงนามในสนธิสัญญาพอร์ตสมัทกับญี่ปุ่น

การแพ้พวกเอเชียทำให้ประชาชนคนรัสเซียไม่เชื่อมั่นในระบอบการปกครองของตนเอง และมีผลทำให้มีการปฏิวัติเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2447 ที่กรุงเซ็นต์ ปีเตอร์สเบิร์ก

ต่อมาจีนและญี่ปุ่นแย่งเกาหลีกัน และก็เลยเกิดสงครามจีน-ญี่ปุ่น ตอนนั้นรัสเซียถือหางจีนอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู แต่จีนแพ้ และต้องไปลงนามในสนธิสัญญาชิโมะโนะเซกิ

รัสเซีย เยอรมนี และฝรั่งเศส แทรกแซงในการลงนามสนธิสัญญาชิโมะโนะเซกิ โดยบีบบังคับให้ญี่ปุ่นถอนการเข้าครอบครองคาบสมุทรเหลียวตงและท่าเรือปอร์ตอาเทอร์ ต่อมารัสเซียไปได้สิทธิเช่าท่าเรือเมืองปอร์ตอาเทอร์ เมืองทาเลียนวัน และบริเวณน่านน้ำโดยรอบ ปีต่อมารัสเซียก็ยังได้ควบคุมพื้นที่เส้นทางรถไฟสายตะวันออกของจีน จีนให้สิทธิรัสเซียสร้างทางรถไฟยาว 1,520 กิโลเมตร ผ่านแมนจูเลียไปยังเมืองท่าวลาดิวอสตอค และมีสิทธิ์ใช้รถไฟสายนี้นานถึง 80 ปี

ญี่ปุ่นมองการกระดิกพลิกตัวของรัสเซียด้วยสายตาของศัตรู

วันหน้ามาเล่าต่อครับ.


นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com