นายสมเกียรติ สุนทรพิทักษ์กุล ผอ.กองคุ้มครองสัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประ เทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการอนุสัญญาไซเตส ครั้งที่ 17 ที่ประเทศรัสเซีย ระหว่างวันที่ 1-5 ต.ค.นี้ คณะกรรมการไซเตสมีมติให้ประเทศไทยออกจากแผนปฏิบัติการงาช้าง หลังจากก่อนหน้านี้ ถูกระบุว่าไทยเป็น 1 ใน8 ประเทศ ที่ไซเตสขึ้นบัญชีว่ามีการ ลักลอบค้างาช้างแอฟริกาผิดกฎหมาย รัฐบาลจึงจัดทำแผนปฏิบัติการงาช้าง เพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้างาช้างแอฟริกามายังประเทศไทย โดยแผนดังกล่าวมีทั้งการแก้กฎหมายและจัดทำกฎหมายเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขปัญหา เช่น การเพิ่มให้ช้างแอฟริกาเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535 โดยบัญญัติเพิ่มเติมว่าการครอบครองงาช้างแอฟริกาและชิ้นส่วนต่างๆ มีความผิดตาม พ.ร.บ.นี้ รวมทั้งมีการออก พ.ร.บ.งาช้าง 2558

“ไซเตสระบุว่าประเทศไทยประสบความสำเร็จในการปราบปรามการลักลอบค้างาช้างแอฟริกา และเห็นควรให้ออกจากแผนปฏิบัติการงาช้าง แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการเฝ้าระวังและติดตามถึงแม้ว่าจะไม่ต้องดำเนินการ ตามแผนปฏิบัติการงาช้างอย่างเข้มข้นเหมือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็น 1 ใน 5 ประเทศร่วมกับ จีน เคนยา ฟิลิปปินส์ ยูกันดา ที่ไซเตสมีมติให้ออกจากแผนปฏิบัติการงาช้าง” ผอ.กองคุ้มครองสัตว์ป่าฯกล่าว.