นายกรัฐมนตรีอิตาลีประกาศภาวะฉุกเฉินในเมืองเจนัวและพื้นที่โดยรอบ หลังสะพานมอเตอร์เวย์พังถล่ม จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 39 ราย...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายกรัฐมนตรี จูเซปเป คอนเต แห่งประเทศอิตาลี ประกาศภาวะฉุกเฉินในแคว้นลีกูเรีย เป็นเวลา 12 เดือน หลังจากเกิดเหตุสะพานมอเตอร์เวย์ ‘โมรันดี’ ในเมืองเจนีวพังถล่ม เมื่อวันอังคารที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา จนรถยนต์ร่วงสู่พื้นกว่า 40 คัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วถึง 39 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกนับสิบคน ทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจไปทั่วประเทศ ที่สะพานสำคัญถล่มลงมาง่ายๆ เช่นนี้

นายกรัฐมนตรี จูเซปเป คอนเต แห่งประเทศอิตาลี
นายกรัฐมนตรี จูเซปเป คอนเต แห่งประเทศอิตาลี

นายคอนเตเปิดเผยที่งานแถลงข่าวในเมืองเจนัวว่า เขาประกาศภาวะฉุกเฉินตามคำร้องขอของรัฐบาลาท้องถิ่น รวมทั้งเตรียมตั้งกองทุนมูลค่า 5 ล้านยูโรสำหรับแคว้นลีกูเรีย เขายังหาทางเอาผิดบริษัท ‘ออโต้เทรด’ (Autostrade) ในเครือกลุ่มบริษัท ‘แอตแลนเทีย กรุ๊ป’ ซึ่งถือสัมปทานการก่อสร้างมอเตอร์เวย์สาย ‘เอ10’ ซึ่งรวมถึงสะพานโมรันดี โดยไม่ต้องรอผลการสืบสวนหาสาเหตุการถล่มของสะพานสายนี้ด้วย

...

อนึ่ง ยังไม่มีใครรู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้สะพานโมรันดีพังถล่ม โดยสะพานกำลังอยู่ระหว่างการเสริมโครงสร้าง และในช่วงเกิดเหตุมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ขณะที่สำนักงานอัยการเจนัว กล่าวโทษว่าเป็นความผิดพลาดของมนุษย์ และเริ่มการสืบสวนเพื่อหาว่า เป็นการกระทำการโดยประมาทจนมีผู้ถึงแก่ความตายหรือไม่ด้วย

สภาพความเสียหายใต้สะพานโมรันดี
สภาพความเสียหายใต้สะพานโมรันดี

ขณะเดียวกัน หน่วยกู้ภัยออกมาระบุว่า เหลือความหวังเพียงน้อยนิดที่จะพบผู้รอดชีวิตที่อาจติดอยู่ใต้ซากสะพาน โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 16 คนกำลังรักษาตัวในโรงพยาบาล และในจำนวนนี้มี 12 คนอาการสาหัส