ทีมกู้ภัยอิตาลี เร่งค้นหาผู้รอดชีวิต จากโศกนาฏกรรมสะพานมอเตอร์เวย์ถล่ม ที่เมืองเจนัว ดับสลดแล้วอย่างน้อย 39 ขณะที่คนขับรถบรรทุก เล่านาทีรอดตายปาฏิหาริย์ ขับรถเลยช่วงสะพานพังไม่กี่อึดใจ
เมื่อ 15 ส.ค.61 สำนักข่าวต่างประเทศและรอยเตอร์เกาะติดโศกนาฏกรรม สะพานมอเตอร์เวย์สาย A10 พังถล่มที่เมืองเจนัว ทางภาคเหนือของอิตาลี เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. วันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ท่ามกลางเกิดพายุฝนฟ้าคะนองอย่างหนัก จนทำให้มีรถยนต์ราว 30-35 คัน และรถบรรทุกอีก 5-10 คัน ที่วิ่งมาถึงบริเวณสะพานช่วงนั้นพอดี ร่วงตกลงมาจากสะพานที่ระดับความสูงราว 50 เมตร อย่างสุดสะเทือนขวัญ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 39ราย บาดเจ็บสาหัสหลายคน
บีบีซี รายงานว่า ทีมกู้ภัยและพนักงานดับเพลิงจากทั่วประเทศอิตาลี ราว 300 คน และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจราว 400 นาย ได้ใช้สุนัขตำรวจ เร่งค้นหาผู้ประสบเหตุที่อาจรอดชีวิต อยู่ใต้ซากปรักหักพังของสะพาน ที่พังถล่มลงมาทับใส่บ้าน โกดัง สำนักงานหลายหลัง อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังมีการอพยพประชาชนหลายร้อยคนที่อยู่ใกล้สะพานออกมา เนื่องจากหวั่นเกรงว่าสะพานในส่วนอื่นๆ อาจพังถล่มลงมาได้

...

ด้านคนขับรถบรรทุกคันหนึ่ง ซึ่ง ขับรถพ้นช่วงบริเวณสะพานที่พังถล่มลงมาความยาวราว 80 เมตรไม่กี่อึดใจนั้น เล่าวินาทีเฉียดตายว่า เขาได้เห็นสะพานพังถล่ม จากกระจกหลัง ‘มันเป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวมาก ผมรอดตายอย่างปาฏิหาริย์ ’ขณะที่คนเห็นเหตุการณ์อีกคน กล่าวว่า ‘สะพานพังถล่มครืน ราวกับว่าทำด้วยแป้ง’


ขณะที่ สื่อต่างประเทศหลายสำนัก ได้เผยว่า มีคนหลายคนเห็นเหตุการณ์สุดระทึกครั้งนี้ และบอกว่าพวกตนเห็นสะพานที่อยู่ระหว่างการซ่อมแซมโครงสร้าง พังถล่มลงมา หลังโดนฟ้าผ่าลงบนสะพาน อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมหลายคนชี้ถึงสาเหตุที่ทำให้สะพานมอเตอร์เวย์พังถล่มลงมาบางส่วนนั้น น่าจะเกิดจากโครงสร้างของสะพานชำรุดเสียหายอย่างหนัก แต่ไม่มีใครสังเกตเห็น ทำให้ไม่มีการซ่อมแซม


...
ทั้งนี้ สะพานมอเตอร์เวย์ ชื่อ ‘โมรันดี’ ซึ่งผ่านการใช้งานมานานนับ 50 ปีแล้วนี้ มีความยาวประมาณ 1.2 กิโลเมตร ก่อสร้างแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2510 และมีการซ่อมแซมครั้งใหญ่เมื่อปี 2559 โดยเป็นสะพานมอเตอร์เวย์ที่สร้างข้ามแม่น้ำ รางรถไฟ โกดัง บ้านหลายหลัง ซึ่งถือเป็นเส้นทางคมนาคมหลักในการเชื่อมต่อระหว่างท่าเรือสำคัญ เขตอุตสาหกรรม ทางภาคเหนือของอิตาลี ไปยัง Italian Riviera และชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส

อ่านข่าว