รัฐอิสราเอลมีประชากร 8.3 ล้านคน ร้อยละ 75 มีเชื้อชาติยิว ที่เหลืออีกร้อยละ 25 ส่วนใหญ่เป็นชาวอาหรับ ภาษาที่เป็นทางการที่ใช้ในอิสราเอลมี 2 ภาษา คือ ภาษาฮีบรู สำหรับ ชาวอาหรับที่เป็นชนกลุ่มน้อยนั้นใช้ภาษาอารบิกเป็นภาษาราชการ ส่วนภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางธุรกิจที่ใช้กันโดยทั่วไป
ตัวเลขของผู้นับถือศาสนาต่างๆในรัฐอิสราเอลน่าสนใจครับ ผู้คนที่นั่นนับถือศาสนายิวร้อยละ 75 มุสลิม 17.7 คริสต์ 2 ดรูซ 1.6 ส่วนที่เหลือนับถือศาสนาอื่น
สิ่งที่เกิดขึ้นในอิสราเอลในช่วงหลังที่ทำให้โลกตกใจมีอยู่ 2 เรื่อง เรื่องแรกคือสหรัฐฯตัดสินใจเป็นชาติแรกที่ย้ายสถานทูตของตนจากกรุงเทลอาวีฟไปนครเยรูซาเล็ม เมื่อ 14 พฤษภาคม 2561 ซึ่งมีเสียงคัดค้านอื้ออึงจากทั่วโลก และมีการประท้วงทำให้กองทัพอิสราเอลฆ่าคนไปจำนวนไม่น้อย
เรื่องที่ 2 เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม 2561 ที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติของรัฐอิสราเอล ซึ่งมีชื่อว่า สภาคเนสเซ็ท มีมติเสียงข้างมากผ่านร่าง พ.ร.บ.ความเป็นรัฐชาติที่ว่าด้วยอิสราเอลคือดินแดนมาตุภูมิของคนยิวมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์
หลังจากที่ร่างกฎหมายนี้ถูกบังคับใช้ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลายอย่าง อย่างแรกคือ ภาษาอารบิก ซึ่งเป็น 1 ใน 2 ภาษา ราชการของอิสราเอลจะถูกลดสถานะลงอย่างมาก แต่รัฐบาลอิสราเอลก็ออกมายืนยันว่า พวกคุณยังใช้ภาษาอารบิกในการสื่อสารกันภายในหรือระหว่างองค์กรที่เป็นพวกอาหรับที่มีเชื้อชาติอาหรับในอิสราเอล
ชนเชื้อสายอาหรับที่อยู่ในรัฐอิสราเอลต่อไปในอนาคตก็จะลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ ถูกตัดสิทธิ ถูกเหยียดเชื้อชาติและศาสนา แม้ว่าจะมีประชากรเกือบ 2 ล้านคน เลือก ส.ส. เชื้อชาติอาหรับเข้าไปในสภาคเนสเซ็ท ความมี ส.ส. จำนวนน้อยก็ทำอะไรไม่ได้มาก ญัตติต่างๆที่เสนอขึ้นไปก็แพ้ตลอด
...
แต่เดิม แผ่นดินทางแถบนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของพวกอาหรับปาเลสไตน์ ส่วนพวกยิวนั้นได้กระจัดพลัดพรายแตกกระสานซ่านเซ็นออกไปจากแผ่นดินนี้เป็นพันปีแล้ว พวกยิวต้องไปมีชีวิตตกระกำลำบากจากการถูกรังเกียจเดียดฉันท์ ไปอยู่ในประเทศไหนก็มักจะถูกเจ้าของแผ่นดินเดิมขจัด เคยโดนถึงขนาดถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในยุคที่อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ปกครองเยอรมนี ระหว่าง พ.ศ.2476-2488 ผู้อ่านท่านที่เคารพก็คงจะจำเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เรียกว่า ฮอโลคอสต์ ได้นะครับ
ชาวยิวค่อยๆกลับไปซื้อที่ดินในตะวันออกกลางจากชาวปาเลสไตน์ จนกระทั่ง พ.ศ.2490 สหประชาชาติลงมติรับแผนการแบ่งแผ่นดินตรงแถบนี้ออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนที่เป็นรัฐอาหรับ และรัฐอิสราเอล โดยให้นครเยรูซาเล็มอยู่ในความควบคุมของหลายชาติ การถูกแบ่งออกเป็น 2 รัฐ โดยสหประชาชาตินี้ พวกยิวเอาด้วย แต่พวกอาหรับปาเลสไตน์ต่อต้าน
ขณะที่อาหรับกำลังเงอะๆงะๆ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี คนยิวก็ประกาศตั้งรัฐอิสราเอล พวกอาหรับก็รวมตัวกันโจมตีอิสราเอลจนเกิดสงครามอาหรับ-อิสราเอล เมื่อ พ.ศ.2491 อาหรับแพ้ ทำให้ อิสราเอลได้ครอบครองดินแดนส่วนใหญ่ที่เคยเป็นอดีตดินแดนอาณัติ
โลกพยายามแก้ไขปัญหาความขัดแย้งอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ทั้งประเทศมหาอำนาจและไม่มหาอำนาจ จัดให้มีการลงนามข้อตกลงออสโล การมีแผนสันติภาพ การประชุมสุดยอดแอนแนโพลิส และมีกระบวนการแก้ไขปัญหาอะไรอีกมากมาย แต่ก็ไม่เคยได้ผล สุดท้ายก็เหมือนกับว่าโลกโดยเฉพาะมหาอำนาจพยายามซื้อเวลาให้อิสราเอล บั้นปลายท้ายที่สุด อิสราเอลเป็นฝ่ายที่ได้ประโยชน์ ได้ทำตามที่ตนมุ่งหวังตั้งใจแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยมีสหรัฐฯใช้อิสราเอลเป็นเครื่องมือของตนเองเพื่อสร้างอิทธิพลและแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากร
70 ปีที่แล้ว ตอนที่ตั้งรัฐอิสราเอลใหม่ๆ พวกอาหรับรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่น แต่เมื่อวันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไป ความเป็นอาหรับและการนับถือศาสนาอิสลามเหมือนกันก็ช่วยอะไรได้ไม่มาก ไม่มีใครยึดถือ 2 สิ่งนี้เป็นสรณะจริงจัง
เวลาหมุนไปเรื่อยๆ ความเป็นอาหรับปาเลสไตน์มีสถานะด้อยลงไป แต่ความเข้มแข็งของชาวยิวกลับเพิ่มขึ้น.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com