รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมของประเทศโบลิเวีย เผยถึงโครงการสร้างพิพิธภัณฑ์ใต้น้ำในทะเลสาบตีตีกากา (Titicaca) ที่มีชื่อเลื่องลือว่าเป็นทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ หลังจากค้นพบสิ่งประดิษฐ์ล้ำค่านับพันๆชิ้นจมอยู่ใต้ ทะเลสาบแห่งนี้ โดยคาดว่าจะเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและเป็นแหล่งค้นคว้าทางธรณีวิทยารวมถึงชีววิทยาหนึ่งเดียวในโลก ใครอยากชมก็คงต้องดำน้ำลงไปดู

ทะเลสาบตีตีกากา ครอบคลุมพื้นที่ 8,500 ตารางกิโลเมตรเลียบพรมแดนระหว่างประเทศโบลิเวียและเปรู เป็นแหล่งน้ำจืดที่อยู่สูงที่สุดในโลกด้วยความสูงกว่า 3,800 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีตำนานเล่าขานมายาวนานของทะเลสาบเกี่ยวกับลูกชายของสุริยเทพชื่อมันโก คาพัค และคนรักของเขาคือมามาออคโย เป็นเทพธิดาแห่งน้ำและความอุดมสมบูรณ์ ว่ากันว่ามันโกเป็นผู้สร้างเมืองกุสโกแห่งเปรู เมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์ของอารยธรรมอินคาในช่วงศตวรรษที่ 13-16 และเป็นแหล่งกำเนิดของวัฒนธรรมท้องถิ่นหลายแห่งก่อนการล่าอาณานิคมของสเปนจะมาถึง

สิ่งที่พบใต้ทะเลสาบตีตีกากามีทั้งสิ่งประดิษฐ์ที่ทำมาจากกระดูก เซรามิค โลหะ เครื่องครัว ซากโครงกระดูกมนุษย์และสัตว์ ที่เก่าแก่ราว 300 ปีก่อนคริสตกาล พิพิธภัณฑ์ดังกล่าวจะใช้งบประมาณสร้างประมาณ 320 ล้านบาท รวมถึงงบอีก 64 ล้านบาท จากเอนาเบล ซึ่งเป็นหน่วยงานพัฒนาประเทศแห่งเบลเยียม (Belgian development agency-Enabel) และองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก (UNESCO) โดยพิพิธภัณฑ์จะสร้างใกล้เมืองซาน เปโดร เดอ ติกีนา ห่างจากกรุงลาปาซ 100 กิโลเมตร.