ผมจับกระแสสื่อจีนเรื่องซิงม่าไท้ ตั้งแต่คืนวันอาทิตย์จนถึงวันจันทร์ คำว่า ‘ซิง’ ก็คือสิงคโปร์ ‘ม่า’ ก็คือมาเลเซีย และ ‘ไท้’ ก็คือไทยแลนด์ เรื่องของสิงคโปร์ไม่มีอะไร เพราะคนสิงคโปร์ใช้ภาษาจีนได้ดีและรู้จักหลบการเขียนสิ่งที่จะสร้างความสะเทือนใจให้คนจีนได้อยู่แล้ว
แต่ที่แย่ก็คือมาเลเซีย เรียนไปตั้งแต่วันจันทร์แล้วว่า การที่ ดร.มหาธีร์ยกเลิกโครงการสร้างเส้นทางรถไฟชายฝั่งตะวันออกมูลค่า 456,500 ล้านบาท ทำให้บริษัท ไชนา คอมมิวนิเคชันส์ คอนสตรักชัน จำกัด สะเทือน และไปกระทบ The New Silk Road Initiative ความคิดริเริ่มโครงการเส้นทางสายไหมใหม่ของจีน
ผมเชื่อว่ามือที่มองไม่เห็นของคณะกรรมการพัฒนาและการปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) คงไม่ยอมและคงจะต้องมีวิธีการเอากลับมาเลเซียอย่างใดอย่างหนึ่ง แบบที่เคยสั่งสอนตอนที่เกาหลีใต้ร่วมมือกับสหรัฐฯตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธทาด (THAAD) ในเกาหลีใต้ ซึ่งตอนนั้น รัฐบาลจีนห้ามคนจีนไปเที่ยวเกาหลีใต้ รวมทั้งมีการบอยคอตห้างและสินค้าเกาหลีใต้ในจีนจนประธานาธิบดีเกาหลีใต้ต้องไปเยือนจีน และจีนก็ปฏิบัติการหลายอย่างที่ไม่ให้เกียรติผู้นำเกาหลีใต้
สำหรับไทย มี 2 กระแสในโซเชียลมีเดียจีน กระแสแรกเป็นการชื่นชมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและการจัดการภาวะฉุกเฉินของไทยในระดับโลก ที่สามารถระดมสรรพกำลังผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ มาทำงานร่วมกัน กรณีปฏิบัติการช่วยทีมหมูป่าที่วนอุทยานถ้ำหลวง–ขุนน้ำนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
แต่เมื่อมีเรือล่มที่เกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต กระแสในโซเชียลมีเดียก็พลิก มีการเปรียบเทียบการจัดการการช่วยเหลือระหว่างคนไทยกับคนจีน มีการแชร์ความไม่พร้อมของห้องฉุกเฉิน การสื่อสาร และการจัดการที่แสนชุลมุนวุ่นวาย ฯลฯ ที่เกิดขึ้นที่จังหวัดภูเก็ต
...
ที่ผมเห็นว่าเป็นอันตรายและกระทบกับจิตใจคนจีนในขณะนี้ก็คือ การเอาบทความในสื่อหลักของไทยและการนำแคปชันจากสื่อโซเชียลไทยไปแปลเป็นภาษาจีนและแพร่ออกไปเป็นไวรัล มีหลายข้อความที่ผู้คนไม่พอใจ เช่น การโยนว่าเรือที่ล่มเป็นเรือไทยที่จีนบริหารจัดการโดยใช้นอมินี ฯลฯ ซึ่งอาจจะเป็นความจริง แต่โซเชียลจีนโต้ว่าเป็นปลายเหตุ ถ้าเป็นเรื่องนอมินี กระแสในโซเชียลจีนสื่อว่ารัฐบาลไทยต้องลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐในเรื่องการปล่อยปละละเลย ไม่ใช่มาโยนความผิดให้คนจีน
เสื้อชูชีพก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งซึ่งในโซเชียลมีเดียจีนพูดถึงกันด้วย โซเชียลจีนบอกว่าเราให้นักท่องเที่ยวใส่แต่เสื้อชูชีพที่เอาไว้ใช้สำหรับดำน้ำดูปะการัง บางทีก็เป็นเสื้อชูชีพพยุงตัว ไม่ใช่เสื้อชูชีพของแท้ ซึ่งเรื่องนี้พวกเราคนไทยที่เขียนภาษาจีนได้ ได้ช่วยกันเข้าไปแก้ไขว่าเป็นเพราะเรือจมอย่างเร็ว เสื้อชูชีพดึงนักท่องเที่ยวให้ไปติดอยู่ในเรือ จึงดำน้ำมุดออกมาไม่ได้
ตอนนี้ ประเทศไทยเจอภาวะวิกฤติ ภาวะฉุกเฉินหลายเหตุการณ์ แต่ละเหตุการณ์จะต้องมีผู้บัญชาการที่เด็ดขาด ชัดเจน เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายไปในทางดี ในหนทางที่สูญเสียน้อยที่สุด คนที่จะไปดูแลจังหวัด จะต้องเคยผ่านการเรียนรู้และฝึกด้านการบัญชาการสถานการณ์ในภาวะฉุกเฉิน ที่ไทยควรจะต้องทำเลยก็คือ เราอาจจะต้องแยก ‘กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย’ ออกมาเป็น ‘กระทรวง’ ผู้คนกระทรวงนี้จะได้มีความชำนาญเฉพาะด้าน
มีโซเชียลไทยโพสต์ว่า พลเมืองจีนมีตั้ง 1,400 ล้าน คนจีนตายไปเพียงไม่กี่สิบคน นักท่องเที่ยวจีนไม่น่าจะแคร์ ยังมาเที่ยวกันเยอะ ไม่เห็นนักท่องเที่ยวจีนลดลงไปเลย
ผมคิดว่านักท่องเที่ยวที่เข้ามาขณะนี้เป็นพวกที่ซื้อทัวร์ไว้แล้ว ยังไงก็ต้องมา แต่ที่กำลังตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดีนี่ซีครับสำคัญ
หลังจากอ่านโพสต์ของคุณที่ถูกเอาไปแปลเป็นภาษาจีนแล้ว
นักท่องเที่ยวจีนอาจจะตัดสินใจไม่มาก็ได้
ชีวิตของคนเพียงคนเดียวก็สำคัญ
ถ้าคนนั้นเป็นคุณ หรือเป็นญาติคุณ.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com