เผยบริษัทเทคโนฯผลิตอุปกรณ์สื่อสารชั้นนำในอิสราเอล มีส่วนร่วมในภารกิจค้นหา 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง ขณะที่ ซีอีโอ ชี้ สิ่งเดียวที่หวัง คือการพาเด็กๆ ออกจากถ้ำอย่างปลอดภัย
เมื่อ 5 ก.ค.61 เว็บไซต์สื่อในอิสราเอลหลายแห่ง ร่วมเกาะติดภารกิจ 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งถือเป็นข่าวใหญ่ระดับโลก หลังจาก 2 ผู้เชี่ยวชาญในการดำน้ำในถ้ำ ของอังกฤษ คือ จอห์น โวลันเธน และริชาร์ด สแตนตัน เป็นทีมนักประดาน้ำชุดแรกที่พบเด็กๆ นักฟุตบอลเยาวชน ทีม ‘หมูป่าอะคาเดมีแม่สาย’ 12 คน และโค้ช วัย 25 ปี 1 คนเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 2 ก.ค. หลังจากติดอยู่ในถ้ำหลวงมานานถึง 9 วัน จนสร้างความดีใจและโล่งอกให้แก่ทีมค้นหา ชาวไทย ตลอดจนชาวโลกอย่างยิ่ง

เว็บไซต์ israel21C รายงานด้วยความภูมิใจในเรื่องที่หลายคนอาจไม่ทราบว่า เทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาในอิสราเอล ได้มีส่วนร่วมในปฏิบัติการค้นหา 13 ชีวิตในถ้ำหลวงครั้งนี้ด้วย โดยนายอูซี ฮานูนี ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัท Maxtech Networks ในอิสราเอล ได้เปิดเผยกับ israel21C ถึงเรื่องนี้ว่า ครั้งแรก ตัวแทนของบริษัท Maxtech ในประเทศไทยได้รับการติดต่อจากหน่วยซีล ของกองทัพเรือไทย เพื่อขอซื้ออุปกรณ์สื่อสาร ‘Max-Mesh’ มาใช้ในถ้ำหลวง หลังจากเด็กๆ และโค้ช 13 ชีวิตหายไปและคาดว่าติดอยู่ในถ้ำหลวง เนื่องจากความพยายามค้นหาในเบื้องต้น ต้องเจออุปสรรคคือระดับน้ำในถ้ำที่สูงขึ้น และขาดระบบการสื่อสาร เนื่องจากที่มีอยู่ไม่สามารถทำงานในถ้ำใต้ดินได้


‘จากจุดนี้ เรื่องทุกอย่างกระจ่างชัดต่อพวกเรา เรารู้ว่าต้องทำอะไรจึงจะสามารถช่วยชีวิตเด็กๆ ได้’ ซีอีโอของบริษัท Maxtech กล่าวพร้อมเผยว่า ในวันที่ 25 มิ.ย.หลังจาก 13 ชีวิตติดอยู่ในถ้ำหลวง 2 วัน ทางบริษัทได้ส่งนายยูวัล ซัลมาวอฟ วิศวกรด้านซอฟต์แวร์ของบริษัทMaxtech ขึ้นเครื่องบินพร้อมกับทีมฉุกเฉินดูแลเรื่องวิทยุสื่อสาร ‘Max-Mesh’ จำนวน 17 คน เพื่อมาช่วยในการฝึกสอนการใช้เทคโนโลยีนี้ โดยทางบริษัทได้ช่วยในทุกๆ เรื่องที่จะช่วยได้โดยไม่มีคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เพื่อต้องการช่วยเด็กๆ และโค้ช โดยนายซัลมานอฟ วิศวกรซอฟต์แวร์ของบริษัทยังได้ทำงานร่วมกับนายอาซาฟ ซีเมอร์ลีย์ ชาวอิสราเอลอีกคนที่เป็นเจ้าของบริษัทกู้ภัยและอยู่ในประเทศไทย

ซีอีโอของบริษัท Maxtech ยังชี้ว่า ภารกิจกู้ภัยทุกอย่างจำเป็นต้องมีการประสานงานกันระหว่างทีมค้นหาและทุกคนต้องรู้ว่า เวลาทั้งหมดที่ผู้ประสบภัยกำลังเผชิญ เป็นสิ่งที่บอกสถานการณ์ของพวกเขาได้ ถ้ำหลวง เป็นถ้ำที่มีความยาวมาก และไม่สามารถสื่อสารกลับมายังฐานบัญชาการได้ แต่นักประดาน้ำจำเป็นต้องติดต่ออย่างต่อเนื่องกับฐานบัญชาการ เพื่อที่จะทำให้เจ้าหน้าที่ที่ฐานบัญชาการรู้ว่าพวกเขาอยู่ในตำแหน่งใด โดยนายฮานูนี กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีระบบสื่อสารชนิดอื่นที่สามารถทำงานได้ที่ถ้ำหลวง ยกเว้นเทคโนโลยีของทางบริษัท

นายฮานูนี กล่าวด้วยว่า ท่ามกลางปฏิบัติการค้นหา 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง ที่ทำให้คนทั่วโลกติดตามด้วยความระทึก เราต้องทำงานแข่งกับเวลา เพราะเด็กๆ ติดอยู่ในถ้ำที่มืด ถ้ำถูกน้ำท่วม พื้นเป็นดินโคลน ทีมค้นหากำลังเร่งสูบน้ำออกจากถ้ำ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝนและสำนักอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่า จะมีฝนตกบริเวณถ้ำหลวงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
นอกเหนือจากการส่งอาหารและยาไปให้เด็กๆในถ้ำ ทีมค้นหากำลังพยายามช่วยวางสายเคเบิลสื่อสารเพื่อช่วยให้เด็กๆ ได้พูดคุยกับพ่อแม่คนในครอบครัว โดยนายฮานูนีกล่าวทิ้งท้ายอย่างน่าประทับใจว่า ตอนนี้ สิ่งเดียวที่พวกตนหวังคือ การพาเด็กๆ ออกมาจากถ้ำหลวงอย่างปลอดภัย ซึ่งพวกตนมาที่นี่เพื่อช่วยเด็กๆ และเป็นเรื่องที่พวกตนหวัง.
อ่านข่าว