พล.ต.ต.นิทัศน์ ลิ้มศิริพันธ์ รอง ผบช.สตม. รรท.สง.ก.ตร. เชิญนายตำรวจรุ่นเดียวกันที่ชื่อ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย พูด “เทคโนโลยีสารสนเทศกับการปฏิบัติงานราชการสมัยใหม่” รับใช้ข้าราชการตำรวจ พฤหัสบดีวันนี้ 14.30-16.30 น. ที่โรงแรมลองบีช การ์เด้น โฮเต็ล แอนด์สปา จ.ชลบุรี
เมื่อวาน ผมเขียนรับใช้การเมืองเกาหลีใต้ในช่วงที่มีประธานาธิบดีคนแรกของประเทศ ที่สร้างความชอบธรรมเพื่ออยู่ในการเมืองด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การออกกฎหมายด้านความมั่นคง การทุจริต การเลือกตั้ง และการใช้ทหารและตำรวจเป็นเครื่องมือทางการเมือง
การเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อ 15 มีนาคม 2503 ประธานาธิบดีอี ซึง มัน กลัวจะแพ้ จึงใช้แผนยัดไส้บัตรเลือกตั้งและทำให้บัตรเลือกตั้งที่ลงคะแนนให้ฝ่ายค้านเป็นบัตรเสีย ส่งผลให้แกชนะเลือกตั้งได้คะแนน เสียงมากถึงร้อยละ 88.7
คนเกาหลีใต้ที่รักความยุติธรรม จึงออกมาชุมนุมที่เมืองมาซาน จังหวัดเคียงซังใต้ ตำรวจยิงปืนใส่ผู้ชุมนุมตายไป 8 ศพ ต่อมามีการ พบศพนักศึกษาที่เสียชีวิตจากการทรมานของตำรวจ ประชาชนจึงโกรธแค้นและต่อต้านลามไปยังกรุงโซล นักศึกษาที่กรุงโซลก็โดนตำรวจทำร้าย บาดเจ็บล้มตายไปอีกหลายร้อยคน ประธานาธิบดีอี ซึง มันสั่งให้กองทัพสลายการชุมนุม แต่กองทัพปฏิเสธ จนอี ซึง มัน ต้องประกาศลาออกจากตำแหน่งและลี้ภัยไปอยู่สหรัฐฯ ส่วนคนที่เป็นรองประธานาธิบดีคือ อี กี พุง ภรรยา และบุตรชายอีก 2 คน ต้องฆ่าตัวตาย
หลังจากนั้นจึงมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อลดอำนาจประธานาธิบดีให้ทำหน้าที่แค่ประมุขของประเทศ ให้นายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร นายยูน โพน ซอน ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี นายชางเมียน เป็นนายกรัฐมนตรี ช่วงนี้มีการกดดันจากประชาชนให้รัฐบาลชางเมียนต้องไล่ตำรวจออกทั้งสิ้น 17,000 นาย ข้อหาใช้อำนาจโดยไม่ชอบ
...
รัฐบาลชางเมียนออกกฎหมายพิเศษต่อต้านคอมมิวนิสต์ขึ้นมาใช้ควบคู่กับกฎหมายด้านความมั่นคง เพื่อใช้จำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุม มีการออกกฎหมายจัดระเบียบการชุมนุม แต่ประชาชนและนักศึกษาก็รวมตัวกันต่อสู้กับกฎหมายที่ไม่เป็นประชาธิปไตย จนรัฐบาลต้องยุติความพยายามในการผ่านร่างกฎหมายทั้งสอง
นายพลปัก จอง ฮี เห็นว่าประเทศวุ่นวายจึงนำกองทัพยึดอำนาจจากรัฐบาลชางเมียน เป็นการสิ้นสุดการปกครองขอ'รัฐบาลที่มาจากแนวทางประชาธิปไตย นายพลปัก จอง ฮี อ้างว่าตัวเองต้องยึดอำนาจเพื่อต่อต้านคอมมิวนิสต์ สร้างความมั่นคงทางการเมืองและฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ปัก จอง ฮี สร้างเครื่องมืออีกตัวหนึ่งที่เรียกว่า Political Purification Act หรือ พ.ร.บ.สร้างความบริสุทธิ์ทางการเมือง เพื่อใช้สกัดนักการเมืองเดิมไม่ให้มายุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมทางการเมืองเป็นเวลา 6 ปี ผลของกฎหมายทำให้นักการเมืองถูกกล่าวหาว่าประพฤติมิชอบและโดนตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปมากกว่า 4,000 คน จากนั้น ก็ใช้ศาลตัดสินให้ข้าราชการพลเรือน ตำรวจ และทหารที่เคยทำงานให้ฝ่ายตรงข้ามกับนายพลปัก จอง ฮี ลาออกจากตำแหน่ง และบรรจุผู้สนับสนุนตนเข้าดำรงตำแหน่งแทน
การปฏิวัติรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นเรื่องล้าหลังที่ทำกันเมื่อ 50–60 ปีก่อน ตอนที่นายพลเนวิน ปฏิวัติยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนของนายอูนุ นายพลเนวินก็ตั้ง The Revolutionary Council หรือสภาปฏิวัติ นายพล ปัก จอง ฮี ยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง แล้วก็ทำเหมือนกันคือตั้ง Supreme Council for National Reconstruction (SCNR) ทำหน้าที่เป็นด้านบริหารราชการและเป็นองค์กรที่มีอำนาจสูงสุด
นายพลปัก จอง ฮี เป็นประธานสภาสูงสุดเพื่อการฟื้นฟูบูรณะชาติ มีอำนาจเบ็ดเสร็จ การตรวจสอบการทำหน้าที่ของสภาฯ ไม่อาจกระทำได้ คณะรัฐประหารสั่งยุบสมัชชาแห่งชาติ ยุบพรรคการเมือง ห้ามการรวมกลุ่ม ห้ามดำเนินกิจกรรมการเมือง หลังจากรัฐประหารได้เพียง 2 เดือน สภาฯ สั่งปลดข้าราชการ 6,900 คน ที่เคยฝักใฝ่กับกลุ่มการเมืองเดิม จากนั้นก็ตั้งสำนักข่าวกรองแห่งเกาหลีใต้ทำหน้าที่สืบราชการลับทั้งในและต่างประเทศ และสืบหาข่าวทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง
เรื่องของเกาหลีใต้ต้องมาว่ากันต่อในวันพรุ่งนี้ครับ.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com