นักดำน้ำชาวเนเธอร์แลนด์เผย ในปฏิบัติการค้นหา 13 ชีวิตติดในถ้ำหลวง หวังให้การสูบน้ำทำให้น้ำในถ้ำลดลงก่อนที่ฝนจะตกลงมา มิเช่นนั้นอาจต้องพาผู้ประสบภัยออกมาก่อนด้วยการดำน้ำ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวปฏิบัติการช่วยเหลือ นักฟุตบอลเยาวชนทีม ‘หมูป่าอะคาเดมี’ ทั้ง 12 คนรวมทั้งโค้ชอีก 1 คนออกจากถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย หลังจากทีมค้นหาเจอทั้ง 13 คนแล้วเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ของไทยกำลังชั่งน้ำหนักว่าจะใช้วิธีใดในการช่วยเหลือพวกเขา

สำนักข่าว news.com.au ของออสเตรเลียระบุว่า เจ้าหน้าที่ของไทยกำลังตัดสินใจว่าจะสอนให้เด็กว่ายน้ำและดำน้ำแบบใช้สกูบา เพื่อให้ออกจากถ้ำหลวงได้ก่อนที่ฝนจะตกลงมาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งจะทำให้น้ำในถ้ำสูงขึ้นและการช่วยเหลือก็จะยากขึ้นไปอีก หรือให้พวกเขารออยู่ในถ้ำจนกว่าระดับน้ำที่ท่วมภายในถ้ำจะลดลง ซึ่งอาจต้องใช้เวลาหลายเดือน

ทหารไทยลุยน้ำในถ้ำหลวง
ทหารไทยลุยน้ำในถ้ำหลวง

...

ด้านนายเบน เรย์เมนานต์ส นักดำน้ำชาวเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเปิดโรงเรียนสอนดำน้ำบนเกาะภูเก็ต และเป็นส่วนหนึ่งในทีมกู้ภัยซึ่งพบตัวทั้ง 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง ระบุว่า ทางเลือกที่ง่ายที่สุดคือสูบน้ำออกจากถ้ำให้ลดลงอีก 3 ถึง 4 ฟุต เพื่อสามารถลอยเด็กๆ ออกมาพร้อมกับเสื้อชูชีพ แต่เขายอมรับว่า "เวลาไม่อยู่ข้างพวกเขา เพราะพยากรณ์ว่าจะมีฝนตกหนัก"

ขณะที่การพาเด็กๆ และโค้ชดำน้ำออกมาจากถ้ำเป็นเรื่องยากมาก “เหตุการณ์นี้เป็นการดำน้ำในถ้ำที่โหดกว่าที่ผมเคยทำ ทางมันไกลมาก และซับซ้อนมากด้วย แถมยังมีคลื่น บางครั้งทัศนวิสัยก็เป็นศูนย์ ดังนั้น การพาเด็กๆ ผ่านช่องแคบออกมาทีละคน มีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้พวกเขาตื่นตระหนก” นายเรย์เมนานต์สบอกกับสำนักข่าว Sky News และเสริมว่า “พวกเขาอาจต้องว่ายน้ำไกลกว่า 2 กม.”

อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่าการว่ายน้ำออกมาใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่ติดข้อจำกัดหลายอย่าง “ช่องทางออกสามารถผ่านได้ทีละคน ดังนั้น การพาเด็กผ่านช่องไปด้านหน้าของคุณอาจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทาย โดยเฉพาะเมื่อฝนตกลงมา และน้ำไหลเร็วจนทัศนวิสัยลดเหลือศูนย์ เมื่อฝนเริ่มตกน้ำจะไหลแรงมาก ผมว่ายผ่านไปแทบไม่ได้เลย”

เจ้าหน้าที่ไทยลำเลียงเครื่องขุดเจาะขึ้นไปบนเขาเพื่อหาเส้นทางใหม่เพื่อพาทั้ง 13 ชีวิตออกจากถ้ำ
เจ้าหน้าที่ไทยลำเลียงเครื่องขุดเจาะขึ้นไปบนเขาเพื่อหาเส้นทางใหม่เพื่อพาทั้ง 13 ชีวิตออกจากถ้ำ

นายเรย์เมนานต์ส ระบุอีกว่า ตอนนี้พวกเด็กๆ อ่อนแอเกินกว่าที่จะสามารถปฏิบัติภารกิจที่ต้องใช้ทั้งพลังและความพยายามมากเช่นนั้นได้ “ก่อนอื่น พวกเขาจำเป็นต้องฟื้นกำลังกลับมา เพราะตอนนี้พวกเขาทำอะไรไม่ได้เลย พวกเขามีปัญหาเริ่มกล้ามเนื้อฝ่อ และยืนแทบไม่ไหว” อนึ่งในวันอังคารทีมแพทย์ของกองทัพเรือไทยเดินทางเข้าไปในถ้ำหลวง และให้ทั้ง 13 ชีวิตกินอาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่จำเป็นแล้ว

นักดำน้ำชาวดัตช์รายนี้เผยด้วยว่า หากทางการไทยตัดสินใจที่จะรอให้น้ำลดก่อนค่อยพาทั้ง 13 ชีวิตออกมา แพทย์ของกองทัพเรือ 2 นายอาสาที่จะอยู่กับพวกเด็กๆ ภายในถ้ำ พร้อมกับอาหารและยาที่เพียงพอจะอยู่ได้นานจนกว่าน้ำจะลดลง ซึ่งอาจต้องใช้เวลา 3-4 เดือน