การเมืองเม็กซิโกเปิดหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ หลังเมื่อวันที่ 1 ก.ค. การเลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศผลปรากฏว่า นายอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ อดีตนายกเทศมนตรีกรุงเม็กซิโก ซิตี้ ผู้สมัครจากกลุ่มพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายได้รับชัยชนะ โค่นกลุ่มพรรครัฐบาลสายรวมอำนาจสู่ศูนย์กลาง นำโดยพรรคสถาบันการปฏิวัติ หรือพีอาร์ไอ ที่กุมอำนาจบริหารประเทศมาเป็นเวลารวมกว่า 100 ปี
ทั้งนี้ ผลการนับคะแนนเบื้องต้นของคณะกรรมการการเลือกตั้งเม็กซิโกระบุว่า นายโอบราดอร์ได้รับคะแนนโหวต 53-53.8 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับผู้สมัครคู่แข่งจากกลุ่มพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งนายริคาร์โด อานายา และนายโฮเซ อันโตนิโอ แมเด ซึ่งคะแนนอยู่ที่ 22.8 และ 15.2 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ โดยถือเป็นผู้สมัครที่ได้รับผลคะแนนโหวตที่สูงสุดในรอบเกือบ 30 ปี ส่งผลให้นายโอบราดอร์เตรียมขึ้นรับ ตำแหน่งเป็นผู้นำคนต่อไปในเดือน ธ.ค. แทนนาย เปญญา นีเอโต ประธานาธิบดีเม็กซิโกคนปัจจุบัน ที่มีกำหนดครบวาระดำรงตำแหน่ง 6 ปี
นายโอบราดอร์กล่าวหลังทราบผลชัยชนะว่า การคอร์รัปชันอย่างกว้างขวางในเม็กซิโกเป็นสาเหตุหลักของปัญหาความไม่เท่าเทียมและอาชญากรรม และไม่ว่าจะเป็นข้าราชการระดับสูง เพื่อน หรือสมาชิกครอบครัวก็จะถูกลงโทษหากพบว่ามีความผิด ส่วนนักวิเคราะห์มองว่านายโอบราดอร์เป็นนักการเมืองสายต่อต้านอำนาจ และยึดหลักการนำไปปฏิบัติได้จริง ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดการรวบอำนาจเบ็ดเสร็จ ส่วนสาเหตุที่ได้รับชัยชนะเชื่อว่า เป็นเพราะนายโอบราดอร์มีจุดยืนต่างจากผู้นำเม็กซิโกคนก่อนๆที่มุ่งเน้นสร้างสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลสหรัฐฯ จึงได้รับคะแนน เสียงจากประชาชนในประเทศและต่างแดนที่ไม่ชอบนโยบายสหรัฐฯ ทั้งกฎการเลือกตั้งครั้งนี้ยังเอื้อความสะดวกให้ชาวเม็กซิโกในต่างแดนลงคะแนนโหวตได้ที่สถานกงสุล จากเดิมที่ต้องกลับประเทศมาเลือกตั้ง
...
วันเดียวกัน นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์แสดงความยินดีต่อชัยชนะถล่มทลายของนายโอบราดอร์ และตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกันเพื่อประโยชน์ทั้งสองประเทศ ซึ่งสำนักข่าวต่างประเทศรายงานด้วยว่า ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-เม็กซิโก ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากนโยบายความอดทนเป็นศูนย์ ปราบคนต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย และนโยบายตั้งกำแพงภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากเม็กซิโก แคนาดา จีน สหภาพยุโรป ส่วนสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สภาหอการค้าสหรัฐฯที่สนับสนุนพรรครัฐบาลรีพับลิกันของนายทรัมป์มาตลอด เริ่มรณรงค์ต่อต้านนโยบายตั้งกำแพงภาษีแล้ว พร้อมทำรายงานวิเคราะห์ว่า อุตสาหกรรมสหรัฐฯในแต่ละรัฐมีอะไรได้รับผลกระทบบ้าง.