เมื่อ 2 ก.ค. ทั้งฝ่ายอัยการเมียนมาและทีมทนายของฝ่ายจำเลยเริ่มเสนอข้อโต้แย้งของนายวา โล กับนายจอ ซอ อู สองนักข่าวชาวเมียนมาจากสำนักข่าวรอยเตอร์ที่ถูกตั้งข้อหาได้รับเอกสารอันเป็นความลับว่าสมควรถูกตัดสินโทษหรือไม่ ซึ่งหากศาลในนครย่างกุ้ง พิจารณาว่าเข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติความลับทางราชการ คาดภายในสัปดาห์หน้าจะมีโทษจำคุกสูงสุดคนละ 14 ปี นับแต่ศาลเริ่มไต่สวนเมื่อเดือน ม.ค. จนสิ้นสุดเดือน พ.ค. โดยไม่อนุญาตให้ประกันตัว ทำให้สองนักข่าวต้องถูกกักขังที่เรือนจำอินเส่ง ในเมียนมา ตั้งแต่ถูกควบคุมตัวเมื่อเดือน ธ.ค.ปีกลาย

ทั้งนี้ ทีมทนายของฝ่ายจำเลยยื่นคำร้องต่อศาลให้ยกฟ้องเมื่อเดือน เม.ย. ด้วยข้อโต้แย้งว่าไม่มีหลักฐานยืนยันเพียงพอที่จะสนับสนุนว่าจำเลยทั้งสองรับเอกสารลับของทางราชการ แต่ศาลปฏิเสธ อีกทั้งฝ่ายอัยการก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเอกสารดังกล่าวอยู่ในความครอบครองของสองนักข่าวได้อย่างไร นอกจากนี้ เอกสารข้อมูลต่างๆ เรื่องการตรวจสอบการสังหารหมู่ชาวมุสลิมโรฮีนจา 10 ศพที่หมู่บ้านหนึ่งในรัฐยะไข่ของเมียนมา ช่วงทหารเมียนมาเข้ากวาดล้างก็มีการเผยแพร่ต่อสาธารณะแล้ว และเมื่อเดือน เม.ย. ร้อยตำรวจโท โม ยาง เนียง ให้การในชั้นศาลว่า มีตำรวจชั้นอาวุโสสั่งให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขานำเอกสารลับไปให้นายวา โล เพื่อเป็น “กับดัก” นักข่าว ทำให้โม ยาง เนียง ถูกตัดสินจำคุก 1 ปี ข้อหาขัดต่อระเบียบวินัยตำรวจและครอบครัวก็ถูกย้ายออกจากที่พักตำรวจ.