ห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ในนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เริ่มใช้มาตรการงดใช้ถุงพลาสติกกับลูกค้า เพื่อเป็นไปตามกฎหมายที่เริ่มมีผลบังคับใช้ทั่วประเทศทั้ง 4 รัฐ วันอาทิตย์ 1 ก.ค. ยกเว้นรัฐวิกตอเรียกับรัฐนิวเซาท์เวลส์ ส่งผลให้เกิดความไม่พอใจต่อผู้บริโภคถึงขั้นบีบคอพนักงานที่ไม่ให้ถุงพลาสติกใส่สินค้า
ทั้งนี้ โคลส์ ห้างค้าปลีกรายยักษ์ใหญ่ของบริษัทเวสฟาร์เมอร์ส ต้องเก็บถุงพลาสติกใส่ของทั้งหมดออก หลังห้างคู่แข่งรายใหญ่ วูลเวิร์ธส์ เริ่มห้ามใช้ก่อนไม่นานเมื่อ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา จนลูกค้าไม่พอใจที่คิดเงินสำหรับค่าใช้ถุงพลาสติก 15 เซนต์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 3.60 บาท ทางห้างวูลเวิร์ธส์จึงผ่อนปรนให้ฟรีจนถึงวันที่ 8 ก.ค.
นอกจากนี้ ห้างโคลส์ยังเปิดทุกช่องจ่ายเงินเพื่อความสะดวกรวดเร็ว ลดการต่อแถวยาว และเพิ่มพนักงานเพื่ออธิบายให้ลูกค้าเข้าใจและปรับความคุ้นเคยใหม่ แต่จากการสำรวจสมาชิก 132 คน ของสมาคมลูกจ้างห้างร้านออสเตรเลียพบว่ามี 57 รายถูกลูกค้าทำร้ายจากคำสั่งห้ามดังกล่าว
อนึ่ง จากตัวเลขของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นอีพี) เผยว่า ทุกปีจะมีถุงพลาสติกกว่า 8 ล้านตันถูกทิ้งลงทะเล และแต่ละปีจะมีคนทั่วโลกใช้พลาสติกมากถึง 5 ล้านล้านตัน ด้านสหประชาชาติ (ยูเอ็น) จึงต้องการกำจัดการใช้พลาสติกให้หมดภายในปี 2565 ซึ่งมีกว่า 60 ประเทศ รวมถึงอังกฤษเริ่มประกาศห้ามใช้ถุงพลาสติกแล้ว.