กลุ่ม ส.ส.พรรคฝ่ายค้านเดโมแครต ให้คำมั่นว่าจะยุติปฏิบัติการการแยกลูกผู้ขอลี้ภัยจากพ่อแม่ผู้ปกครอง โดยรวมตัวกันประท้วงที่ศูนย์กักกันผู้ลี้ภัยทั้งที่รัฐนิวเจอร์ซีย์กับรัฐเท็กซัส เมื่อ 17 มิ.ย. ตรงกับวันพ่อแห่งชาติ เพราะตลอดช่วง 6 สัปดาห์ มีเด็กเกือบ 2,000 คน ต้องถูกจับแยกออกจากพ่อแม่ ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนับแต่ต้นเดือน พ.ค. หลังนายเจฟฟ์ เซสซันส์ รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ ประกาศนโยบาย “ความอดทนเป็นศูนย์” ว่า ผู้ลี้ภัยที่ข้ามพรมแดนจากเม็กซิโกเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายจะถูกจับกุมและโดนตั้งข้อหาทางอาญา ไม่ว่าจะเป็นคนที่พยายามหาทางลี้ภัย

ด้านนางเมลาเนีย ทรัมป์ สตรีหมายเลข 1 แห่งสหรัฐฯ เผยผ่านนางสเตฟานี กริชแฮม โฆษกหญิงประจำตัว ที่ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น ว่า เธอเกลียดที่เห็นเด็กถูกพรากออกจากครอบครัว และหวังว่าทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่และทางครอบครัวจะสามารถช่วยกันทำให้การปฏิรูปผู้ลี้ภัยประสบผลสำเร็จได้ เพราะเชื่อว่าประเทศชาติต้องดำเนินทุกอย่างไปตามกฎหมาย แต่ประเทศชาติก็ต้องบริหารประเทศด้วยหัวใจ

นอกจากนี้ นางลอรา บุช อดีตสตรีหมายเลข 1 สมัยนายจอร์จ ดับเบิลยู.บุช เขียนลง นสพ.วอชิงตัน โพสต์ว่า ตนเองก็อาศัยที่รัฐเท็กซัส ติดชายแดนเม็กซิโก ซาบซึ้งกับความจำเป็นต้องใช้กำลังและปกป้องพรมแดนสากลของเรา แต่นโยบายความอดทนเป็นศูนย์ถือว่าใจร้าย ผิดศีลธรรม.