กลุ่มฝ่ายค้านในประเทศมาเลเซียสร้างประวัติศาสตร์ กำชัยในการเลือกตั้งทั่วไป และได้เก้าอี้ในรัฐสภามากพอสำหรับจัดตั้งรัฐบาล...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มหาเธร์ โมฮัมหมัด สร้างประวัติศาสตร์คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปของประเทศมาเลเซีย ซึ่งจัดขึ้นในวันพุธที่ 9 พ.ค. โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งของมาเลเซียเผยว่า กลุ่มพรรคพันธมิตรฝ่ายค้านของเขาได้เก้าอี้ในสภาไป 115 ที่นั่ง มากกว่าเป้าหมาย 112 ที่นั่ง ซึ่งจำเป็นสำหรับการตั้งรัฐบาล

มหาเธร์ โมฮัมหมัด กลับมาจากการเกษียณ เพื่อลงเลือกตั้งชิงชัยกับ นายนาจิบ จากกลุ่มแนวร่วมแห่ชาติ หรือ ‘บาริซาน เนชั่นแนล’ (บีเอ็น) ที่ปกครองประเทศมานานกว่า 60 ปี โดยมหาเธร์บอกกับผู้สื่อข่าวหลังทราบผลการเลือกตั้งว่า “เราไม่ได้หาทางแก้แค้น เราต้องการฟื้นฟูกฎหมาย” อดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้คาดการณ์ด้วยว่า พิธีสาบานตนจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้

ทั้งนี้ นายมหาเธร์ ในวัย 92 ปี เคยเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบีเอ็น และครูของนายนาจิบ แต่เขาถอนตัวออกมาในปี 2559 โดยกล่าวว่า รู้สึกอับอายที่ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคที่สนับสนุนการคอร์รัปชัน

...

การเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุดนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับคดีคอร์รัปชันของนายนาจิบ ผู้ถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินกว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากกองทุน 1MDB ซึ่งเป็นกองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐ แต่เขาปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด ผ่านการตรวจสอบของทางการมาเลเซีย

ก่อนที่ผลการเลือกตั้งจะได้รับการเปิดเผยออกมา หลายฝ่ายกังวลอย่างมากว่าการเลือกตั้งครั้งนี้อาจไม่ยุติธรรม หลังรัฐบาลผ่านกฎหมายแก้ไขเขตเลือกตั้ง รวมทั้งกฎหมายปราบปรามข่าวปลอม ซึ่งนักวิจารณ์มองว่าอาจถูกใช้เพื่อปิดปากผู้เห็นต่าง ขณะที่กลุ่ม ‘เบอร์ซีห์ 2.0’ ผู้สนับสนุนปฏิรูปการเลือกตั้ง ก็กล่าวหาคณะกรรมการการเลือกตั้งว่า ก่ออาชญากรรมเกี่ยวกับการเลือกตั้งหลายอย่าง รวมถึงไม่ถอนชื่อคนเสียชีวิตออกจากบัญชีเลือกตั้ง และมีความผิดปกติในการลงคะแนนเสียงผ่านไปรษณีย์ด้วย