ตำรวจเยอรมันบุกทลายซ่องผิดกฎหมายครั้งใหญ่ รวบหญิงไทยกับสามีเยอรมันหัวหน้าขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ เป็นนายหน้าพาหญิงไทยมาค้ากาม...
เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2561 บุญธง ก่อมงคลกูล ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำประเทศเบลเยียมรายงาน สำนักงานตำรวจเยอรมนี แถลงเมื่อวันพุธที่ 18 เมษายนว่า ได้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 1,500 นายเข้าตรวจค้นและจับกุมซ่องโสเภณีและที่พักทั่วประเทศจำนวนกว่า 60 แห่ง โดยสามารถทลายเครือข่ายขบวนการโสเภณีจากประเทศไทยที่ขยายตัวมีธุรกิจให้บริการทางเพศอยู่ทั่วประเทศ จับกุมหัวหน้าขบวนการได้ 2 คนเป็นหญิงไทยวัย 59 ปีกับสามีชาวเยอรมันวัย 62 ปี
การค้าประเวณีเป็นธุรกิจที่ถูกกฎหมายในหลายประเทศยุโรป โดยผู้ค้าประกอบการจะต้องมีการแจ้งจดทะเบียนการทำงานกับสำนักงานสวัสดิการสังคมและเสียเงินประกันสังคมถูกต้อง กรณีที่เป็นชาวต่างชาติจากประเทศนอกสหภาพยุโรปต้องมีใบอนุญาตทำงานก่อนจึงจะสามารถทำงานได้ การมีแมงดาหรือคนคุมซ่องที่ฉวยโอกาสตักตวงผลประโยชน์จากหญิงหรือชายที่ทำงานบริการทางเพศถือว่าผิดกฎหมายหรือเป็นการค้ามนุษย์
หญิงค้าบริการจากยุโรปตะวันออกหรือประเทศแถบเอเชีย เช่น ไทย จะเดินทางเข้าไปทำงานโดยมีเครือข่ายหรือขบวนการจัดหาจากประเทศต้นตอ มีการตกลงค่าใช้จ่ายและหักคืนจากรายได้ที่ได้ในการทำงานแต่ละวันโดยจะต้องหักค่าที่พัก อาหาร ถุงยางอนามัย ฯลฯ ขบวนการส่งหญิงสาวหรือคนแปลงเพศเข้าไปทำงานในยุโรปถือเป็นความผิดร้ายแรงในข้อหาค้ามนุษย์ (Human trafficking)
สำนักงานตำรวจยุโรป หรือยูโรโพลประสานงานกับตำรวจในแต่ละประเทศทำการกวาดล้างจับกุมอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นในประเทศออสเตรีย อังกฤษ เบลเยียม หรือเยอรมนีที่มีการกวาดล้างเครือข่ายส่งหญิงไทยและชายแปลงเพศจากเมืองไทยเข้ามาค้าบริการทางเพศล่าสุด จับกุมหญิงไทยวัย 59 ปี กับสามีชาวเยอรมันวัย 62 ปี เป็นหัวหน้าขบวนการค้ามนุษย์ มีผู้ต้องหาถูกจับกุมทั้งสิ้น 7 คน และมีผู้ต้องสงสัยจำนวน 17 คน ที่เชื่อว่ามีส่วนร่วมในการทำวีซ่าเชงเก้นปลอมเข้าเยอรมนีมาประกอบอาชีพโสเภณีในซ่องสามแห่งที่เมืองซีเก้น ทางภาคตะวันตกของเยอรมนี ตั้งแต่ปี 2006
...
อัยการของเยอรมนี ระบุว่า นอกจากนั้น โสเภณีที่ถูกจับกุมได้กว่าร้อยคนจะถูกส่งตัวหมุนเวียนไปตามซ่องทั่วประเทศ ทุกคนทำงานโดยไม่ได้รับเงิน เนื่องจากผู้คุมหรือแมงดาจะเก็บทั้งหมดเพื่อหักเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาเยอรมนีและค่าที่พัก อาหาร ฯลฯ สองสามีภริยายังจะถูกดำเนินคดีในข้อหาจ้างแรงงานโดยผิดกฎหมาย ไม่มีการแจ้งสำนักงานสวัสดิการสังคม เฉพาะซ่องสามแห่งในเมืองซีเก้นมีเงินสวัสดิการสังคมต้องชำระจำนวน 1.6 ล้านยูโร หรือราวๆ 62.4 ล้านบาท.