เพนตากอน บรรยายสรุป ปฏิบัติการของ 3 ชาติยักษ์ใหญ่ สหรัฐฯอังกฤษ และฝรั่งเศสโจมตีซีเรีย พร้อมเผยคลิปนาทียิงโทมาฮอว์ก จากเรือรบ ขณะที่ อังกฤษ ส่งขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ ล้ำสุดในโลกถล่ม

เมื่อ 15 เม.ย.61 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างชาติตะวันตกนำโดยสหรัฐฯกับรัฐบาลซีเรีย ซึ่งมีรัสเซีย และอิหร่าน เป็นพันธมิตรหลัก   หลังรัฐบาลสหรัฐฯ อังกฤษ และฝรั่งเศส จับมือกันเปิดฉากโจมตีทางอากาศถล่มซีเรีย ระดมยิงขีปนาวุธกว่า 100 ลูกโจมตีฐานบัญชาการทหาร และโรงงานผลิตอาวุธเคมีในกรุงดามัสกัส และเมืองฮอมส์ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 14 เม.ย. ชี้ว่ารัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาดของซีเรียใช้อาวุธเคมี แก๊สพิษโจมตีเมืองดูมา ทางตะวันออกของประเทศ สังหารพลเรือนในชาติตนเองอย่างเลือดเย็นกว่า70 ราย บาดเจ็บหลายร้อยคน ในขณะที่รัฐบาลซีเรียออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานั้น

ข่าวแจ้งว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มซีเรียในครั้งนี้ของ 3 ชาติยักษ์ใหญ่ สหรัฐฯ อังกฤษ และฝรั่งเศสนั้น กองกำลังสหรัฐฯ มีทั้งการระดมยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์ก จากเรือรบสหรัฐฯ 2 ลำที่ประจำการอยู่ในทะเลแดง รวมทั้งจากการส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-1 Lancer

สหรัฐฯยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์ก จากเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Monterey
สหรัฐฯยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์ก จากเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Monterey

...

เครื่องบินจู่โจม  ทอร์นาโด ของอังกฤษติดตั้งขีปนาวุธ สตอร์ม ชาโดว์ ทะยานออกจากฐานทัพในไซปรัส ร่วมปฏิบัติการโจมตีซีเรีย
เครื่องบินจู่โจม ทอร์นาโด ของอังกฤษติดตั้งขีปนาวุธ สตอร์ม ชาโดว์ ทะยานออกจากฐานทัพในไซปรัส ร่วมปฏิบัติการโจมตีซีเรีย

ในขณะที่กองกำลังอังกฤษ ส่งฝูงเครื่องบินจู่โจม RAF Tornado GR4 ทะยานจากฐานทัพอากาศบนเกาะไซปรัส ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ยิงขีปนาวุธนำวิถี สตอร์ม ชาโดว์ (Storm Shadow) ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นขีปนาวุธนำวิถีที่ก้าวล้ำมากที่สุดในโลกในเวลานี้โจมตีเป้าหมายในซีเรีย ส่วนกองกำลังฝรั่งเศส ส่งฝูงบินจู่โจม ราฟาล( Rafale) บินโจมตี และมีการยิงขีปนาวุธจากเรือฟริเกตอเนกประสงค์ ‘อากีเตน’ ติดขีปนาวุธ MdCN ที่ลอยลำอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

สหรัฐฯ อังกฤษ และฝรั่งเศส จับมือกันเปิดฉากถล่มซีเรีย จากเรือรบ และส่งเครื่องบินรบยิงขีปนาวุธโจมตี
สหรัฐฯ อังกฤษ และฝรั่งเศส จับมือกันเปิดฉากถล่มซีเรีย จากเรือรบ และส่งเครื่องบินรบยิงขีปนาวุธโจมตี

ต่อมา ด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯได้มีการบรรยายสรุปปฏิบัติการโจมตีซีเรีย เมื่อวันที่ 14 เม.ย.พร้อมกับ เผยแพร่ภาพก่อนหลังเป้าหมายที่ถูกถล่ม และคลิปวิดีโอ นาทียิงขีปนาวุธนำวิถี โทมาฮอว์ก จากเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Monterey โดยพล.ท.เคนเนธ แม็คเคนซี ผู้อำนวยการ เสนาธิการทหารร่วมของกองทัพสหรัฐ แถลงว่า มีเป้าหมาย 3 แห่งในซีเรียถูกโจมตี ประกอบด้วย 1. ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาวุธเคมี บาร์ซาห์(Barzah)ใกล้กรุงดามัสกัส  เมืองหลวงซีเรีย โดยถูกถล่มด้วยขีปนาวุธ 76 ลูก ในจำนวนนี้ เป็นขีปนาวุธโทมาฮอว์กถึง 57 ลูก

...

สภาพความเสียหายของศูนย์วิจัยและพัฒนาอาวุธเคมี บาร์ซาห์ (Barzah) ใกล้กรุงดามัสกัส หลังโดนโจมตี
สภาพความเสียหายของศูนย์วิจัยและพัฒนาอาวุธเคมี บาร์ซาห์ (Barzah) ใกล้กรุงดามัสกัส หลังโดนโจมตี
ภาพก่อนและหลัง โรงเก็บอาวุธเคมี ฮิม ชินชาร์ (Shinshar) ใกล้เมืองฮอมส์ หลังโดนถล่ม
ภาพก่อนและหลัง โรงเก็บอาวุธเคมี ฮิม ชินชาร์ (Shinshar) ใกล้เมืองฮอมส์ หลังโดนถล่ม

...

2. โรงเก็บอาวุธเคมี ฮิม ชินชาร์ (Shinshar) ใกล้เมืองฮอมส์ โดนถล่มด้วยขีนปาวุธ 22 ลูก เป็นโทมาฮอว์ก 9 ลูก, ขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ของอังกฤษ 8 ลูก และขีปนาวุธร่อนนำวิถีจากเรือ 5 ลูก และขีปนาวุธนำวิถี Scalp ของฝรั่งเศส 2 ลูก และเป้าหมายโจมตีแห่งที่ 3. คือ บังเกอร์เก็บอาวุธเคมี ฮิม ชินชาร์ (Him Shinshar) ใกล้เมืองฮอมส์ โดนโจมตีด้วยขีปนาวุธ Scalp 7 ลูก ซึ่งถือเป็นการโจมตีที่ประสบความสำเร็จ

พล.ท.แม็คเคนซี ยังแถลงด้วยว่า ระบบป้องกันขีปนาวุธของซีเรียมีการยิงขีปนาวุธสกัดประมาณ 40 ครั้ง ส่วนใหญ่ถูกยิงขึ้นสกัดหลังจากขีปนาวุธของสหรัฐฯ อังกฤษ และฝรั่งเศส โจมตีเป้าหมายแล้ว ขณะที่ไม่มีการใช้ระบบป้องกันขีปนาวุธของรัสเซียแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม คำบรรยายสรุปของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ขัดแย้งกับทางฝั่งกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ที่ระบุว่า ทางฝ่ายสหรัฐฯ อังกฤษ และฝรั่งเศส ยิงขีปนาวุธมาโจมตี 103 ลูก และระบบป้องกันขีปนาวุธของซีเรียสามารถยิงสกัดขีปนาวุธจนตกได้ถึง 71 ลูก

นางนิกกี้ ฮาเลย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำยูเอ็น ยกมือคัดค้านข้อเสนอของรัสเซียที่ต้องการให้ยูเอ็นลงมติประณามการโจมตีซีเรีย
นางนิกกี้ ฮาเลย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำยูเอ็น ยกมือคัดค้านข้อเสนอของรัสเซียที่ต้องการให้ยูเอ็นลงมติประณามการโจมตีซีเรีย

...

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯได้ออกมาประกาศความสำเร็จในการโจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมายในซีเรีย ว่าเป็นปฏิบัติการทางทหารที่สมบูรณ์แบบ ในขณะที่ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ มีมติปฏิเสธข้อเสนอของรัสเซียที่พยายามให้ยูเอ็นลงมติประณาม สหรัฐฯ อังกฤษ และฝรั่งเศส ที่ร่วมมือกันโจมตีซีเรีย เนื่องจากถูกคัดค้านโดยชาติสมาชิกคณะมนตรึความมั่นคงยูเอ็น 8 ชาติ ขณะที่มี 4 ชาติงดออกเสียง และมีเพียง 3 ชาติ คือ รัสเซีย จีน และโบลิเวีย ที่สนับสนุนข้อเสนอของรัสเซียที่ต้องการให้ยูเอ็นลงมติประณามการถล่มซีเรียครั้งนี้

ด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ได้ออกมาประณามการโจมตีซีเรียของชาติตะวันตกว่าเป็นหนทางที่อันตรายที่สุด และขู่รัสเซียจะใช้ปฏิบัติการทางทหารตอบโต้ทันทีหากมีชาวรัสเซียถูกโจมตี เช่นเดียวกับ ทางการจีนได้ออกมาประณามการโจมตีทางอากาศถล่มซีเรีย และเห็นว่าควรแก้ปัญหาด้วยการเจรจา ไม่ใช่การใช้ปฏิบัติการทางทหาร