นายลี เมียง–บัก อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ขึ้นแท่นเป็นอดีตผู้นำรายล่าสุดที่ถูกจับดำเนินคดีขณะใกล้หมดวาระหรือหลังจากพ้นวาระไปแล้ว โดยเมื่อวันที่ 9 เม.ย. สำนักอัยการกลางกรุงโซลแถลงฟ้องร้องนายลี ข้อหารับสินบน ยักยอกทรัพย์ และข้อหาอื่นๆ อย่างเป็นทางการ นายลีถูกจับเดือนที่แล้วในข้อหารับเงิน 11,000 ล้านวอน (ราว 310 ล้านบาท) จากหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ บริษัทซัมซุง และจากแหล่งอื่นๆ ยักยอกทรัพย์ 35,000 ล้านวอน (ราว 1,023 ล้านบาท) จากบริษัทเอกชนของตัวเองและเลี่ยงภาษีมูลค่า 3,000 ล้านวอน (ราว 8,719,370 บาท)
ลี เมียง-บัก เคยเป็นผู้บริหารของบริษัทฮุนไดและนายกเทศมนตรีกรุงโซล เจ้าของโปรเจกต์อลังการด้วยการรื้อทางด่วนทิ้งเพื่อฟื้นคืนชีพคลองเก่า ชองเกชอน จนเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของกรุงโซลในปัจจุบัน ก่อนมาเป็นประธานาธิบดีช่วงปี 2551-2556 ถือเป็นอดีตผู้นำเกาหลีใต้คนล่าสุดที่ถูกจับดำเนินคดีหลังพ้นอำนาจ หลังจากเมื่อ 3 วันก่อนหน้านี้ อดีตผู้นำหญิงปัก กึน เฮ ลูกสาวโทนของอดีตผู้นำเผด็จการปัก จุง ฮี ถูกศาลกรุงโซลตัดสินจำคุก 24 ปีและปรับเงินจำนวนหนึ่งจากหลายข้อหารวมทั้งคอร์รัปชัน อันเป็นผลพวงจากการปล่อยให้เพื่อนหญิงคนสนิทเข้ามาป่วนงานบริหารประเทศโดยไม่มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เข้านอกออกใน รู้เรื่องงานบริหารจนน่าเกลียด
การถูกจับดำเนินคดีครั้งนี้ นายลีเคยกล่าวหารัฐบาลชุดปัจจุบัน ภายใต้การนำของประธานาธิบดี มูน แจ-อิน ต้องการแก้แค้นเอาคืนต่อการเสียชีวิตของเพื่อนของนายมูน ซึ่งก็คือนายโนห์ มู-ยอน อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่กระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย ขณะสมาชิกครอบครัวถูกสอบสวนคดีคอร์รัปชันเมื่อปี 2552
ส่วนอดีตผู้นำหญิงปัก กึน เฮ เรียกตัวเองว่าเป็นเหยื่อของการแก้แค้นทางการเมือง เธอไม่ยอมมาขึ้นศาลตั้งแต่เดือน ต.ค.ปีที่แล้ว และไม่มาขึ้นศาลในวันตัดสินโทษเมื่อวันที่ 6 เม.ย. อ้างปัญหาสุขภาพที่ไม่ระบุชัด และเช่นเดียวกัน นายลี ไม่ยอมให้ปากคำมาตั้งแต่วันที่ถูกจับเมื่อวันที่ 22 มี.ค.
...
การดำเนินคดีอดีตผู้นำทั้งสองคนแสดงให้เห็นถึงความจริงจังในการปราบคอร์รัปชันของเกาหลีใต้ที่บ่อยครั้งอำนาจเงินกับอำนาจการเมืองแยกกันไม่ออก และหากใครแยกไม่ออกก็รอเป็นรายต่อไปที่จะถูกกฎหมายเล่นงานสถานเดียว.
เกรียงศักดิ์ จุนโนนยางค์