รัฐบาลสหรัฐฯประกาศจุดยืนอยู่ข้างอังกฤษแล้ว ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย โต้ทันที ประกาศจะขับไล่นักการทูตอังกฤษกลับประเทศในเร็วๆ นี้ หลังรบ.นายกฯเธเรซา เมย์ ไล่ 23 นักการทูตรัสเซียออกนอกประเทศ
เมื่อ 15 มี.ค. 61 สำนักข่าวต่างประเทศเกาะติดความบาดหมางระหว่างรัฐบาลอังกฤษกับรัสเซียครั้งใหม่ ที่กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น จากกรณี นายเซอร์เก สครีพอล อดีตสายลับรัสเซีย ซึ่งลี้ภัยในอังกฤษโดนลอบวางยา พร้อมกับลูกสาว จนหมดสติ อาการโคม่า ตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น
ขณะนี้สถานการณ์ความตึงเครียดกำลังบานปลายขึ้น โดยเมื่อ 15 มี.ค. กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ประกาศจะขับไล่นักการทูตอังกฤษออกจากรัสเซีย ในเร็ววันนี้ เพื่อตอบโต้กรณีที่รัฐบาลอังกฤษขับไล่นักการทูตรัสเซียประจำอังกฤษ 23 คนออกจากประเทศ หลังจากรัฐบาลรัสเซียไม่ได้ออกมาชี้แจงใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ตามเส้นตายที่รัฐบาลอังกฤษกำหนดไว้
บีบีซี ระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ได้เรียกข้อกล่าวหาของนายกรัฐมนตรีเธเรซา เมย์ ของอังกฤษ ว่า ‘วิกลจริต’ ในขณะที่รัฐบาลประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ปฏิเสธว่ารัฐบาลรัเซียไม่มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบใดๆ ต่อการที่ นายสครีพอล อดีตสายลับโดนลอบ ‘วางยา’

...
ด้านรัฐบาลสหรัฐฯ ได้มอบหมายให้ทำเนียบขาวออกมาแสดงจุดยืนของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าจะยืนหยัดอยู่เคียงข้างกับสหราชอาณาจักร จากที่เป็นพันธมิตรที่ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกันที่สุด พร้อมกับสนับสนุนการตัดสินใจของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีเมย์ ที่ขับไล่นักการทูตรัสเซีย 23 คน พ้นประเทศ
ทั้งนี้ รัฐบาลอังกฤษได้ดำเนินการตอบโต้รัสเซีย หลังผลการตรวจสอบสารพิษที่นำมาใช้ลอบทำร้าย นายสครีพอล วัย 66 ปี และยูเลีย สครีพอล ลูกสาววัย 33 ปี เป็นสารทำลายประสาท ‘โนวีชอก’ ที่มีพิษร้ายแรงที่สุดชนิดหนึ่ง ซึ่งผลิตในรัสเซีย