เมื่อไม่นานมานี้นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสหสาขาวิชาชีพในกรุงปารีส หรือปารีสที่ 7 (INSERM–Universite Paris Diderot) ในฝรั่งเศส เผยถึงผลการศึกษาผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนักอาจมีแนวโน้มที่นำไปสู่ภาวะสมองเสื่อมโดยเฉพาะในวัยกลางคน จากการตรวจสอบข้อมูลผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในฝรั่งเศสมากกว่า 31 ล้านราย ซึ่งรวมถึงผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมมากกว่า 1 ล้านคนระหว่างปี พ.ศ.2551–2556

พบว่า 945,512 ราย ได้รับการวินิจฉัยว่ามีความผิดปกติจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนใหญ่เป็นผู้ติดสุรา และประมาณ 5% ของผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมนั้นเริ่มต้นมีอาการสมองเสื่อมก่อนอายุ 65 ปี โดยสาเหตุส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นักวิจัยเผยว่าการดื่มหนักจนติดเรื้อรังนับเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุดต่อการเกิดภาวะสมองเสื่อมในทั้งเพศหญิงและชาย และทำให้เสี่ยงต่อโรคภัยอื่นๆ เช่น โรคหลอดเลือด นอกจากนี้ยังมีข้อสนับสนุนจากการวิจัยก่อนหน้าที่ชี้ให้เห็นว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจนำไปสู่ความบกพร่องทางสติปัญญา และเมื่อผสมกับปัจจัยอื่น เช่น การสูบบุหรี่ ก็อาจเสี่ยงเป็นความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ภาวะซึมเศร้า ฯลฯ

ด้านองค์การอนามัยโลกกำหนดระดับการดื่มหนักแบบเรื้อรัง สำหรับชายคือดื่มอย่างน้อย 6 แก้ว หรือเทียบเป็นแอลกอฮอล์ล้วนๆมากกว่า 60 กรัม ส่วนสตรีคือดื่มอย่างน้อย 4 แก้ว เทียบเป็นแอลกอฮอล์มากกว่า 40 กรัม ทั้งนี้ การศึกษานี้ไม่ใช่การทดลองที่มีการควบคุมเพื่อพิสูจน์ว่าการดื่มอาจทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อมหรือทำให้เกิดปัญหาด้านความรู้ความเข้าใจในวัยกลางคนได้หรือไม่ และเป็นเพียงการใช้บันทึกจากโรงพยาบาลซึ่งอาจมีการบันทึกอาการเมื่อผู้ป่วยมีปัญหาทางการแพทย์หลายครั้ง และความผิดปกติของการใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถูกระบุผ่านบันทึกของโปรแกรมการฟื้นฟูสมรรถภาพซึ่งอาจไม่รวมถึงผู้ที่มีปัญหาเรื่องการดื่ม.

...