คู่รักชาวแคนาดาเผชิญประสบการณ์สุดสยอง เดินเที่ยวชายหาดในโดมินิกัน พอกลับบ้านพบว่าเท้าบวมเป่ง หมอชี้ถูกพยาธิชอนไช...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 30 ม.ค.ว่า น.ส.เคที สตีเฟนส์ อายุ 22 ปี กับนายเอ็ดดี ซีตเนอร์ อายุ 25 ปี รู้สึกคันยุบยิบบริเวณเท้าของพวกเขา ระหว่างพักอยู่ที่รีสอร์ต ‘ไอเอฟเอ วิลลาส์ บาวาโร’ ในเมืองปุนตา คานา ทางตะวันออกสุดของสาธารณรัฐโดมินิกัน เมื่อช่วงต้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา แต่ทั้งคู่คิดว่าคงเป็นเพราะถูกแมลงที่ไม่มีพิษกัด

แต่พอกลับถึงบ้าน ทั้งคู่ก็พบว่าเท้าของพวกเขาเริ่มมีอาการบวมอย่างหน้ากลัว จึงเดินทางเข้าพบแพทย์ ซึ่งผลการตรวจหลายต่อหลายครั้งทำให้วินิจฉัยได้ว่า พวกเขาป่วยเป็น ‘โรคผิวหนังที่เกิดจากพยาธิตัวกลมระยะตัวอ่อน’ หลังพยาธิระยะตัวอ่อนซึ่งในกรณีนี้คือ พยาธิปากขอ ไชเข้าไปตามผิวหนังชั้นหนังกำพร้า

“ฉันกับแฟนเพิ่งกลับมาจากปุนตา คานา และพบว่าเราทั้งคู่เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากพยาธิตัวกลมระยะตัวอ่อน หรือพูดอีกอย่างคือ มีพยาธิอยู่ในเท้าของเรา” น.ส.สตีเฟนส์ระบุบนเว็บไซต์เฟซบุ๊ก พร้อมทั้งโพสต์รูปเท้าของเธอกับแฟนที่บวมอย่างน่ากลัวด้วย

ทั้งนี้ ตามข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐฯ พยาธิปากขอสามารถชอนไชเข้าไปในผิวหนังของมนุษย์ได้ หากมนุษย์เดินเท้าเปล่าบนพื้นที่มีพวกมันอยู่ โดยผู้ที่ติดเชื้อไม่หนักจะไม่แสดงอาการป่วยใดๆ แต่หากติดเชื้อรุนแรงจะส่งผลให้เกิดอาการคัน, เป็นผื่น, ปวดท้อง, ท้องร่วง, ไม่อยากอาหาร, น้ำหนักลดลง, เหนื่อยล้า และโลหิตจางได้ ขณะที่วิธีรักษาต้องกระทำโดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งใช้เวลา 1-3 วัน.

...

ที่มา: cbsnews