แม้ว่าจะมีรัฐสภา แต่ประเทศเจริญแล้วก็ยังจะตัดสินเรื่องใหญ่ๆ ที่เกี่ยวกับอนาคตของประเทศชาติบ้านเมืองด้วยการลงประชามติ เพื่อให้ชัดเจนว่า สิ่งที่จะทำหรือไม่ทำกับประเทศนั้น เป็นความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง อย่างเช่นรัฐควิเบกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคนาดา รัฐนี้มีคนพูดภาษาฝรั่งเศสเยอะ วัฒนธรรมประเพณีวิถีชีวิตเป็นแบบฝรั่งเศส เมื่อ พ.ศ.2523 มีการลงประชามติแยกรัฐควิเบกไปเป็นเอกราชชาติใหม่ ผลของการประชามติ พวกที่ต้องการแยกประเทศแพ้ เรื่องก็สงบไป
พ.ศ.2538 เอ้า เอาอีกแล้ว พวกที่ต้องการแยกควิเบกไปเป็นประเทศใหม่ เสนอให้มีการลงประชามติเมื่อ 30 ตุลาคม 2538 ผลก็คือ พวกที่ต้องการแยกควิเบกไปเป็นรัฐใหม่แพ้ ได้ 2,308,360 คะแนนเสียง คิดเป็นร้อยละ 49.42 พวกที่ไม่ต้องการให้แยกควิเบกออกจากแคนาดา ได้ 2,362,648 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 50.58 ชนะแพ้กันเพียง 54,288 คะแนน แต่ถึงขณะนี้ก็ยังมีการรณรงค์ที่จะให้ควิเบกกลายเป็นประเทศเอกราชชาติใหม่ ในอนาคตก็อาจจะมีการลงประชามติเป็นครั้งที่ 3
ที่ฮือฮากันเมื่อปีที่แล้วก็คือ การลงประชามติแยกแคว้นคาตาลุญญา ให้กลายเป็นประเทศเอกราชชาติใหม่ออกจากราชอาณาจักรสเปน ถึงแม้ฝ่ายที่ต้องการให้แยกชนะ แต่รัฐบาลกลางของสเปนไม่ยอม จัดให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นเฉพาะในแคว้นคาตาลุญญา ก็ปรากฏว่า พรรคที่หนุนให้มีการแยกประเทศชนะท่วมท้น ตอนนี้สายตาทุกคู่บนโลกก็เฝ้าดูเกมอำนาจระหว่างพวกที่ต้องการแยกแคว้นคาตาลุญญาเป็นประเทศกับรัฐบาลกลางของสเปน ภายใน พ.ศ.2561 นี้ ก็คงจะรู้ว่าหมู่หรือจ่า
เมื่อวานผมค้างไว้ถึงเรื่องสกอตแลนด์ ที่แรกเริ่มเดิมทีเป็นประเทศเอกราช แล้วก็ถูกจับไปผนวกเป็นดินแดนของอังกฤษ 291 ปี (ค.ศ.1707-1998) เพิ่งมาได้รับสิทธิปกครองตนเองเมื่อ ค.ศ. 1998 และมีรัฐสภาของสกอตแลนด์เองเมื่อ ค.ศ.1999 นี่ถ้าเป็นคนเผ่าพันธุ์อื่นที่ถูกรวมชาติรวมแผ่นดิน ก็คงจะผสมปนเปกันจนแยกไม่ออกว่า ใครเป็นอังกฤษ ใครเป็นสกอตไปแล้วละครับ แต่คนสกอตไม่ยอม แถมยังบอกโลกว่า ตัวเองไม่ใช่คนอังกฤษ
...
พวกที่มีเชื้อสายสกอตมีชื่อเสียงระดับโลกหลายคนครับ เช่น อเล็กซานเดอร์ เฟลมมิ่ง คนที่คิดค้นยาเพนนิซิลิน และได้รับรางวัลโนเบล หรืออย่างอเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบล ที่คิดค้นโทรศัพท์ เจมส์ วัตต์ ที่คิดค้นเครื่องจักรไอน้ำ โทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ อเล็ก เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจ.เค. โรลลิ่ง ผู้เขียนแฮรี่ พอตเตอร์ ฯลฯ
ราชวงศ์อังกฤษมอบบรรดาศักดิ์ “เซอร์” ให้กับคนสกอตจำนวนไม่น้อย โดยอาจจะหวังให้คนเหล่านี้มาเป็นเนื้อเดียวกับคนอังกฤษ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผลครับ
เกือบ 4 ปีที่แล้ว มีการลงประชามติแยกสกอตแลนด์ออกจากสหราชอาณาจักร ผลการลงประชามติ พวกที่อยากแยกแพ้ แต่ขณะนี้มีการรณรงค์ที่จะให้มีการลงประชามติแยกประเทศอีกเป็นครั้งที่ 2 หลายท่านก็ถามจังว่า ทำไมคนสกอตถึงไม่อยากอยู่กับอังกฤษ
พื้นที่ 1 ใน 3 ของเกาะบริเตนใหญ่เป็นแผ่นดินสกอตแลนด์ สกอตแลนด์มีเนื้อที่ 78,783 ตารางกิโลเมตร มีเกาะน้อยใหญ่มากถึง 790 เกาะ พื้นน้ำของสกอตแลนด์โดยเฉพาะแถวมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือและทะเลเหนือเป็นแหล่งสำรองน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง
เมืองใหญ่ที่สุดของสกอตแลนด์คือ กลาสโกว์ เคยเป็นเมืองอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก ส่วนเมืองใหญ่อันดับสองคือ เอดินบะระ เป็นทั้งเมืองหลวงของสกอตแลนด์และเป็นศูนย์กลางการเงินที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป เมืองใหญ่อันดับสามคือ อาเบอร์ดีน ซึ่งเป็นเมืองริมทะเลเหนือ ก็ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงน้ำมันของทวีปยุโรป ด้วยเหตุพวกนี้นี่แหละครับ อังกฤษถึงหวงสกอตแลนด์ คนสกอตเองก็รู้ว่า ถ้าแยกออกเป็นประเทศเอกราชชาติใหม่แล้ว ตัวเองจะได้ครอบครองทรัพยากรธรรมชาติน้ำมันโดยที่ไม่ต้องไปแบ่งกับใคร
เมื่อวาน ผมรับใช้ถึงเรื่องคนสกอตที่นับถือศาสนาประจำชาติสกอตแลนด์ หรือพวกเพรสไบทีเรียนว่า คนไหนหัวแข็งก็จะโดนอังกฤษลงโทษด้วยการเนรเทศไปยังอาณานิคมในทวีปอเมริกาเหนือ
วันนี้ มัวแต่เขียนเรื่องโน่นเรื่องนี้จนลืมเขียนต่อจากเมื่อวาน ต้องไปขอว่ากันต่อในวันพรุ่งนี้ซะแล้วนะครับ.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com