ยูทูบเบอร์คนดังชาวอเมริกันออกมายอมรับผิด และขอโทษกรณีที่เขาถ่ายภาพศพคนฆ่าตัวตายระหว่างเยือนป่าในประเทศญี่ปุ่น และนำไปเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์ จนทำให้เกิดกระแสต่อว่าอย่างรุนแรง...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โลแกน พอล ยูทูบเบอร์คนดังชาวอเมริกัน ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 15 ล้านคนบนเว็บไซต์ยูทูบ โพสต์วิดีโอและแถลงการณ์ขอโทษ ต่อกรณีที่เขาเผยแพร่คลิปวิดีโอภาพศพคนฆ่าตัวตายระหว่างที่เขาเดินทางเยือนป่า อาโอกิงาฮาระ อันมีฉายาว่า ‘ป่าฆ่าตัวตาย’ บริเวณเชิงภูเขาไฟฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ในวันเกิดเหตุ โลแกน พอล กำลังถ่ายทำคลิปวิดีโอที่ 3 ของการเดินทางเยือนโตเกียวของเขา ซึ่งเขาแพนกล้องไปพบสิ่งที่คล้ายศพแขวนคออยู่บนต้นไม้ในป่าอาโอกิงาฮาระ เขาจึงพูดออกไปว่า ‘โย่ คุณยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า? คุณยังอยู่กับเรามั้ย?’ ก่อนที่เขาและกลุ่มเพื่อนจะแน่ใจว่าสิ่งที่เห็นคือศพคนตาย ทำให้พวกเขาตกใจอย่างมาก ก่อนเข้าไปถ่ายคลิปในระยะห่างจากศพไม่กี่ฟุตโดยเบลอภาพใบหน้าศพออกไป “มือเขาเป็นสีม่วง เขาเพิ่งทำอย่างนี้เมื่อเช้านี้เอง” พอลกล่าวในวิดีโอ

โลแกน พอล
โลแกน พอล

...

จากนั้นพอลจึงหันหน้ากล้องกลับมาที่ตัวเอง และกล่าวถึงเรื่องการฆ่าตัวตายว่าไม่ใช่เรื่องตลก เช่นเดียวกับโรคซึมเศร้าและอาการป่วยทางจิต อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กลายเป็นประเด็นถูกต่อว่าจากทุกสารทิศนอกจากการถ่ายภาพศพคือ เขาและคณะดูเหมือนไม่ค่อยให้ความสำคัญกับสถานการณ์ที่พวกเขากำลังเผชิญ และหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน เช่นช่วงหนึ่ง เพื่อนของพอลพูดขึ้นมาว่า เขารู้สึกไม่ดีเลย แต่ยูทูบเบอร์คนดังตอบกลับไปว่า “อะไรกัน นายไม่เคยยืนข้างศพคนตายมาก่อนหรือไง?” ก่อนจะหัวเราะออกมา

หลังจากถูกกระแสสังคมรวมทั้งผู้ติดตามจำนวนมากออกมาต่อว่าถึงความไม่เหมาะสม และการไม่ให้เกียรติคนตาย พอลก็ลบคลิปวิดีโอเจ้าปัญหาซึ่งมีผู้ชมหลายล้านออกจากยูทูบ แล้วโพสต์วิดีโอและแถลงการณ์ขอโทษผ่านทางทวิตเตอร์ “ผมตัดสินใจผิดพลาดและเลวร้าย และผมไม่หวังว่าจะได้รับการอภัย” พอลกล่าว “ผมไม่ควรโพสต์วิดีโอนี้ ผมควรวางกล้องลง และหยุดบันทึกภาพสิ่งที่เราพบเจอ มีอีกหลายเรื่องที่ผมควรทำให้แตกต่างออกไป แต่ผมไม่ได้ทำ ผมอับอายและผิดหวังในตัวเอง”

ป้านเตือนต่างๆ ที่ป่าอาโอกิงาฮาระ
ป้านเตือนต่างๆ ที่ป่าอาโอกิงาฮาระ

อนึ่ง ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศพัฒนาแล้วที่มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงที่สุดในโลก และป่าอาโอกิงาฮาระก็มีชื่อเสียงในทางที่ไม่ดี ว่าเป็นสถานที่ที่ผู้คนมักเดินทางมาฆ่าตัวตาย แต่ไม่มีการเปิดเผยจำนวนผู้เสียชีวิตในแต่ละปีออกมาอย่างเป็นทางการ ขณะที่รัฐบาลได้นำป้ายเตือนจำนวนมากมาตั้งที่ป่าแห่งนี้ เพื่อเรียกร้องให้ผู้คนไปขอความช่วยเหลือจากแพทย์แทนที่จะตัดสินใจจบชีวิตของตัวเอง