การประท้วงต่อต้านรัฐมนตรีอิหร่านดำเนินต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มเป็น 21 ราย แต่ประธานาธิบดีอิหร่านบอกไม่ใช่เรื่องใหญ่...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวประท้วงต่อต้านรัฐบาลอิหร่านเป็นวันที่ 6 ติดต่อกันเมื่อวันอังคารที่ 2 ม.ค. และเหตุปะทะระหว่างผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ความมั่นคงก็ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 21 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ขณะที่ทางการสหรัฐฯ ออกมาแสดงความสนับสนุนผู้ประท้วงว่ากำลังแสดงความต่อต้านอย่างกล้าหาญ

การประท้วงเริ่มขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 ธ.ค. ในเมืองมาชฮัด โดยในเบื้องต้นมีจุดประสงค์เพื่อต่อต้านการขึ้นราคาสินค้าและการคอร์รัปชัน ก่อนจะลุกลามกลายเป็นประท้วงต่อต้านรัฐบาล และเกิดการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกับตำรวจที่จัตุรัสเอนเกเลบ ในกรุงเตหะราน สถานีตำรวจในเมืองคาห์เดริจาน ถูกเผาทำลาย ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 21 ราย รวมทั้งตำรวจ 1 นายที่ถูกผู้ชุมนุมยิงด้วย
...

ด้าน ประธานาธิบดี ฮัสซัน โรฮานี แห่งอิหร่าน ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ประธานาธิบดี โดยพยายามลดความสำคัญของเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นลง “นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ การวิพากษ์วิจารณ์และการประท้วงเป็นโอกาส ไม่ใช่ภัยคุกคาม” อย่างไรก็ตาม เขาประกาศด้วยว่า จะมีมาตรการจัดการกับผู้ก่อจลาจลและผู้ละเมิดกฎหมาย

ด้านประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ยกระดับการทำสงครามน้ำลายกับผู้นำอิหร่านไปอีกขั้น โดยระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า “ชาวอิหร่านผู้ยิ่งใหญ่ต้องเก็บกดมาหลายปี พวกเขาต้องการอาหารและเสรีภาพ รวมทั้งสิทธิมนุษยชนและความมั่งคั่งแห่งอิหร่านที่กำลังถูกปล้นไป ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลงแล้ว”