รัฐบาลฮอนดูรัสประกาศใช้กฎเคอร์ฟิว เพิ่มอำนาจเจ้าหน้าที่ความมั่นคง เพื่อจัดการกับผู้ประท้วงไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งผู้สมัครฝ่ายค้านชี้ว่าไม่โปร่งใส...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 2 ธ.ค. รัฐบาลของประเทศฮอนดูรัสเพิ่มอำนาจให้กองทัพและตำรวจ โดยระงับสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ และใช้คำสั่งเคอร์ฟิวเป็นเวลา 10 วัน เพื่อควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในประเทศ หลังจากเกิดการประท้วงของประชาชนที่ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 พ.ย.
การประกาศผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีถูกเลื่อนออกไป หลังจากนายซิลวาดอร์ นาสรัลเลาะห์ ผู้สมัครฝ่ายค้านเรียกร้องให้ทางการนับผลการเลือกตั้งในหีบเลือกตั้งกว่า 5,000 กล่องใหม่ โดยอ้างว่าพบหลักฐานของการโกงเลือกตั้ง เพราะคะแนนของเขาที่นำประธานาธิบดี ฮวน ออร์แลนโด เอร์นันเดซ ถึง 5% กลับถูกแซงเมื่อนับคะแนนไปได้ราว 90% ขณะที่คนของคณะกรรมเลือกตั้ง ก็ได้รับเลือกโดยสภาคองเกรสที่นายเอร์นันเดซควบคุมด้วย
...
ในเบื้องต้น สถานการณ์ความขัดแย้งในฮอนดูรัสบรรเทาลงชั่วคราวในวันพุธ เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายลงนามสาบานจะยอมรับผลการเลือกตั้งที่ออกมา แต่กลับเกิดเรื่องที่น่ากังขาขึ้นอีกครั้ง เมื่อการนับคะแนนต้องหยุดลงเพราะคอมพิวเตอร์ขัดข้อง ทำให้นายนาสรัลเลาะห์ ออกมาประกาศภายในไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า สัญญาที่เพิ่งลงนามไป เป็นโมฆะแล้ว
ทั้งนี้ เหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันลงคะแนน ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 3 ราย มีผู้บาดเจ็บอีกหลายสิบคน และมีผู้ถูกจับกุมอีกนับร้อยคน เหตุปะทะกันล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 1 ธ.ค. โดยตำรวจยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้สนับสนุนฝ่ายค้านในเมืองหลวงกรุงเตกูซิกัลปา ใกล้สำนักงานที่จะมีการประกาศผลการเลือกตั้ง ส่วนในพื้นที่อื่นๆ ผู้ชุมนุมออกมารวมตัวปิดกั้นถนนสายสำคัญ และจุดไฟเผายานพาหนะด้วย.