ระหว่างการประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อ 29 พ.ย. นางนิกกี้ ฮาลีย์ อัครราชทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกร้องให้สมาชิกยูเอ็นทุกประเทศตอบโต้เกาหลีเหนืออย่างแข็งกร้าว หลังเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) รุ่นฮวาซอง-15 พิสัยยิงไกลที่สุด ครอบคลุมสหรัฐฯทั้งประเทศ โดยฮาลีย์ขอให้ทุกประเทศตัดความสัมพันธ์ทั้งการทูตและการค้ากับเกาหลีเหนือ รวมถึงให้จีนหยุดส่งน้ำมันทั้งหมดให้เกาหลีเหนือด้วย และขู่ว่าถ้าเกิดสงครามขึ้น เกาหลีเหนือจะถูกทำลายล้างอย่างสิ้นเชิง

อย่างไรก็ตาม จีนยังมีท่าทีลังเลที่จะทำตามคำเรียกร้องของสหรัฐฯ ขณะที่นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย ปฏิเสธที่จะให้ตัดความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือ โดยชี้ว่าจะส่งผลในด้านลบ การคว่ำบาตรทั้งหมดที่ผ่านมาไม่ได้ผล แม้นายวัสซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็น เรียกร้องให้เกาหลีเหนือหยุดทดสอบขีปนาวุธ รวมถึงประเทศอื่นๆ ทั้งสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ซึ่งมีกำหนดซ้อมรบครั้งใหญ่ในเดือน ธ.ค.นี้ และยังเชื่อว่าหนทางแก้ไขมีเพียงผ่านการเจรจาทางการทูตเท่านั้น ขณะที่จีนขอให้ทุกฝ่ายอดทนอดกลั้นอย่างถึงที่สุด ส่วนญี่ปุ่นต้องการให้ประชาคมโลกร่วมกันกดดันเกาหลีเหนือต่อไป เพื่อให้เข้าใจว่าจะต้องเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติของตัวเอง.