ประธานาธิบดีทรัมป์ สั่งชะลอเผยแพร่เอกสารลับเพิ่มเติม คดีลอบสังหารอดีต ปธน.จอห์น เอฟ. เคนเนดี ขณะที่กองจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐฯ เผยแพร่เอกสารในคดีนี้ไปแล้ว 2,800 ฉบับ สื่อนอกเผย ผู้นำสหรัฐฯ โดน FBI และ CIA กดดันหนักจนต้องสั่งเบรก
เมื่อ 27 ต.ค.60 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานความคืบหน้าการเปิดแฟ้มลับคดีลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี หรือเจเอฟเค (JFK) เมื่อ พ.ย. 1963 (พ.ศ.2506) ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้มีคำสั่งให้ชะลอการเปิดเผยเอกสารอื่นๆ เพิ่มเติม ในคดีลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีเคนเนดีต่อสาธารณะ ตามแรงกดดันจากสำนักงานสืบสวนสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (FBI) และสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (CIA) ขณะที่ กองจดหมายเหตุแห่งชาติได้เปิดเผยเอกสารในคดีลอบสังหาร จำนวน 2,800 ฉบับไปแล้ว
รอยเตอร์ระบุว่า สภาคองเกรสสหรัฐฯ ได้มีคำสั่งเมื่อปี 2535 ว่า เอกสารต่างๆ เกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนคดีลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีเคนเนดีที่ถูกปิดเป็นความลับ ควรนำมาเปิดเผยต่อสาธารณชนทั้งหมดภายใน 25 ปีหลังจากนั้น คือตรงกับ (ปี 2560) โดยกองจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดจะเปิดเผยเอกสารดังกล่าวในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 เว้นแต่ประธานาธิบดีจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ซึ่งตามกฎหมายแล้ว ผู้นำสหรัฐฯ สามารถสั่งเลื่อนการเปิดเผยเอกสารลับออกไปได้ หากจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และในเรื่องอื่นๆ
...
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ยืนยันมาตลอดตั้งแต่วันเสาร์ที่ 21 ตุลาคมแล้วว่า เขาจะอนุญาตให้เปิดเผยเอกสารเกี่ยวข้องในคดีลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีเคนเนดี แต่ขณะที่กำหนดเส้นตายใกล้มาถึง รัฐบาลทรัมป์ได้ตัดสินใจนาทีสุดท้ายที่จะขอระงับการเผยแพร่เอกสารที่เหลือออกไปเป็นเวลา 180 วัน ตามคำแนะนำของเอฟบีไอและซีไอเอ เพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลตรวจสอบว่าเอกสารที่เหลือเหล่านี้เป็นอันตรายต่อการปฏิบัติการด้านข่าวกรอง ความมั่นคงของชาติฯ หรือไม่
ส่วนเอกสารในคดีลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีเคนเนดี กว่า 2,800 ฉบับ ได้ถูกนำมาเปิดเผยทางหน้าเว็บไซต์ของกองจดหมายเหตุแห่งชาติแล้ว ตั้งแต่เย็นวันพฤหัสฯ ที่ 26 ตุลาคม ที่ผ่านมาแล้ว.