กองทัพฟิลิปปินส์สามารถยึดศูนย์บัญชาการของกลุ่มกบฏฝักฝ่ายรัฐอิสลามในเมืองมาราวีได้แล้ว หลังต่อสู้กันมานานเกือบ 4 เดือน โดยเจ้าหน้าที่กองทัพเชื่อว่า วิกฤติครั้งนี้ใกล้ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองทัพของประเทศฟิลิปปินส์เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 ก.ย. ว่า พวกเขาสามารถยึดอาคารที่ถูกใช้เป็นศูนย์บัญชาการของกลุ่มกบฏ ‘มาอูเต’ ผู้ฝักฝ่ายรัฐอิสลาม (ไอซิส) ซึ่งยึดเมืองมาราวี บนเกาะมินดาเนา ทางใต้ของประเทศมาเป็นเวลาเกือบ 4 เดือนได้แล้ว ก้าวเข้าใกล้เป้าหมายในการขับไล่กลุ่มกบฏออกจากเมือง ยุติวิกฤติด้านความมั่นคงครั้งร้ายแรงที่สุดของประเทศ
พลเอก เอดูอาร์โด อาโน ผู้บัญชาการกองทัพฟิลิปปินส์ระบุในแถลงการณ์ว่า กองทัพยึดศูนย์บัญชาการของฝ่ายกบฏได้หลังจากต่อสู้อย่างดุเดือดตั้งแต่วันเสาร์ ที่มัสยิดและอาคารอีกแห่งหนึ่ง และความสำเร็จครั้งใหญ่นี้จะทำให้กลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนี้อ่อนแอลงไปอีก และในขณะที่ปฏิบัติการเก็บกวาดกำลังดำเนินต่อไป เชื่อว่าศัตรูจะยอมละทิ้งดินแดนที่พวกเขาเคยยึดครองอีกหลายแห่ง แต่แน่นอนว่าไม่ปราศจากการต่อสู้ ซึ่งพวกเขาพร้อมสำหรับเรื่องนั้น

...
ด้าน พันเอก โรเมโอ บราวเนอร์ รองผู้บัญชาการกองกำลังเฉพาะกิจต่อสู้กลุ่มติดอาวุธ ระบุว่า ทหารเผชิญการต่อต้านอย่างหนักหน่วงระหว่างการยึดคืนมัสยิดดังกล่าว มีทหารเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บอีก 7 นาย แต่การยึดคืนสถานที่แห่งนี้ได้อาจเป็นสัญญาณว่า การต่อสู้อย่างยาวนานกับกบฏมาอูเตกำลังจะถึงบทสรุปแล้ว “เราเชื่อว่าเราเข้าใกล้จุดสิ้นสุดแล้ว พื้นที่ที่กลุ่มก่อการร้ายมาอูเตสามารถเคลื่อนย้ายไปได้ หดเล็กลงแล้ว และเรารู้สึกได้ว่า การต่อต้านของพวกเขากำลังอ่อนแอลง”
พันเอกบราวเนอร์ระบุด้วยว่า ผู้บงการปฏิบัติการยึดเมืองมาราวียังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในเมืองแห่งนี้ ซึ่งทหารกำลังตามล่าหาตัวพวกเขา “เราไม่ต้องการให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเมืองอื่นๆ ของฟิลิปปินส์อีก”
ทั้งนี้ การต่อสู้ซึ่งดำเนินมานาน 3 เดือน 3 สัปดาห์ กับอีก 4 วัน (นับจนถึงวันจันทร์ที่ 17 ก.ย.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ทหารฟิลิปปินส์ถูกฆ่า 149 นาย บาดเจ็บเกินกว่า 1,400 นาย ขณะที่นักรบติดอาวุธถูกสังหาร 668 คน และถูกจับกุมตัวได้ 11 คน ขณะที่มีพลเรือนเสียชีวิต 87 คน และอีกกว่า 180,000 คนต้องอพยพออกจากเมือง