ทางการเมืองแซนดิเอโก ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทางการแพทย์แล้ว หลังจากไวรัสตับอักเสบ เอ ระบาดมาตั้งแต่ปลายปีก่อน ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 15 รายและติดเชื้อเป็นจำนวนมาก...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สำนักงานสาธารณสุขเมืองแซนดิเอโก ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐอเมริกา ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทางการแพทย์เมื่อวันศุกร์ที่ 1 ก.ย. หลังจากเกิดการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของเชื้อไวรัสตับอักเสบ สายพันธ์ุ เอ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 15 ราย และมีผู้ติดเชื้ออีกหลายร้อยคน
การระบาดของไวรัสตับอักเสบ เอ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักต่อกลุ่มคนไร้บ้านในแซนดิเอโก เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีพ.ศ. 2559 โดยดร. วิลมา วูทเทน แห่งสำนักงานสาธารณสุขเมืองแซนดิเอโก ได้ลงนามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทางการแพทย์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อให้เมืองแห่งนี้สามารถขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลของรัฐแคลิฟอร์เนียได้
ทั้งนี้ ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ไวรัสตับอักเสบ เอ มีอัตราการติดต่อของเชื้อสูงมาก สามารถติดต่อกันได้เมื่อมนุษย์รับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อน หรือจากการสัมผัสกับมนุษย์ที่ติดโรคโดยตรง ซึ่งการระบาดในแซนดิเอโกเป็นผลมาจากอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ โรคนี้ทำให้เสียชีวิตได้หากเกิดอาการตับล้มเหลว แต่เป็นกรณีที่ไม่พบมากนัก
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ ยูเนียน ทริบิวน์ (Union Tribune) เจ้าหน้าที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ เอ แล้ว 378 ราย นับตั้งแต่การระบาดเริ่มต้นขึ้น นับเป็นตัวเลขที่มากที่สุดในรอบ 20 ปี ซึ่งหน่วยงานบริหารของแซนดิเอโกได้ติดตั้งสถานีล้างมือเคลื่อนที่จำนวนหนึ่ง ส่งทีมเจ้าหน้าที่ไปทำความสะอาดพื้นที่ผิวถนนแล้ว และรณรงค์เรื่องการฉีดวัคซีนเพื่อลดการระบาดของเชื้อแล้ว ตามรอยนครลอสแอนเจลิสที่ใช้วิธีเดียวกันนี้เช่นกัน
...