ความสะดวกสบายที่มาพร้อมกับขั้นตอนที่รวดเร็วและมีมาตรการความปลอดภัยในสนามบินเป็นสิ่งที่รัฐบาลหลายๆประเทศวางวิสัยทัศน์และพยายามพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ โดยนำเทคโนโลยีทันสมัยมาช่วยบริหารจัดการ ซึ่งในอนาคตอีกไม่นานนี้เราอาจต้องผ่านการตรวจสแกนใบหน้า ซึ่งช่วยให้ไม่ต้องต่อคิวเข้าแถวกันเมื่อยและใช้เวลานาน หรือมีหุ่นยนต์ช่วยจัดการสัมภาระการเดินทาง สร้างความพึงพอใจสำหรับผู้ใช้บริการ อย่างสูงสุด

การสแกนใบหน้าเริ่มใช้กันแล้วที่สนามบินชางงีในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลก พวกเขาตั้งเป้าหมายที่จะเปิดตัวเทคโนโลยีไบโอเมตริกซ์ที่อาคารแห่งใหม่ โดยจะเปิดให้ใช้บริการในปลายปีนี้ ผู้โดยสารจะได้รับการสแกนใบหน้าเมื่อเช็กอินครั้งแรกและในขั้นตอนต่อๆ ไปก็จะช่วยให้ผู้โดยสารสามารถผ่านขั้นตอนการขึ้นเครื่องได้อย่างรวดเร็ว หรือในออสเตรเลียได้ประกาศจะใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าในสนามบินนานาชาติของประเทศทั้งหมด ในขณะที่สนามบินดูไบในสหรัฐ-อาหรับเอมิเรตส์ ก็กำลังทดลองใช้ระบบดังกล่าวเช่นกัน ส่วนหุ่นยนต์ทำความสะอาด หุ่นยนต์ขนสัมภาระ ก็ปรากฏตัวในสนามบินหลายแห่ง ทั้งที่สนามบินชางงี หรือสนามบินอินชอนในกรุงโซล แห่งเกาหลีใต้บ้างแล้ว

การแข่งขันกันเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เดินทางไกล ให้พวกเขาสามารถเลือกเส้นทางที่จะเดินทางเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่สำคัญทางเศรษฐกิจ ซึ่งใครๆต่างก็อยากได้ความสะดวกสบายในช่วงเวลาที่ต้องเดินทางและหยุดพักเพื่อต่อเครื่องไปยังจุดหมายปลายทางหลัก จนไม่น่าแปลกที่สนามบินจะมีสภาพคล้ายกับห้างสรรพสินค้า แวดล้อมด้วยสวนในร่ม อย่างไร ก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้ก็อาจทำให้ผู้ประกอบการต้องเผชิญการลงทุนมหาศาล รวมถึงร้านค้าปลีกและที่จอดรถอาจลดลงเนื่องจากนวัตกรรมใหม่ๆ.

...