นักโบราณคดีของตูนิเซียและอิตาลี ค้นพบเมืองโบราณของอาณาจักรโรมัน ที่หายสาบสูญไปกว่า 1,700 ปี เพราะถูกคลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่มแล้ว โดยพบใต้ทะเลของประเทศตูนิเซียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทีมนักโบราณคดีของประเทศตูนิเซียและอิตาลี ค้นพบซากถิ่นฐานอายุ 1,700 ปีของเมือง ‘เนอาโปลิส’ ของอาณาจักรโรมันโบราณ ที่พวกเขาตามหามาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010 โดยพบซากถนนและอนุสาวรีย์พื้นที่กว่า 20 เฮกตาร์ อยู่ใต้ทะเลนอกชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศตูนิเซีย ใกล้เมืองนาเบิล
ตามบันทึกของ อัมเมียน มาร์เซลลิน นักประวัติศาสตร์และทหารของอาณาจักรโรมัน (มีชีวิตอยู่ช่วงปี ค.ศ. 330-400) เมืองเนอาโปลิสจมอยู่ใต้ทะเลหลังจากถูกคลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่มปี ค.ศ. 365 ทำให้เมืองเกือบทั้งหมดได้รับความเสียหาย ภัยพิบัติทางธรรมชาติดังกล่าวยังสร้างความเสียหายอย่างหนักแก่เมืองอเล็กซานเดรียของอียิปต์ และเกาะครีตของกรีซด้วย
อย่างไรก็ตาม ไม่มีบันทึกเกี่ยวกับประชาชนของเมืองโบราณแห่งนี้มากนัก ข้อมูลที่พบจนถึงตอนนี้ทำให้ทราบเพียงว่า เมืองเนอาโปลิสอยู่ภายใต้การปกครองของชาวคาร์เธจ เมืองซึ่งสร้างโดยชาวฟีนิเชียนในช่วง 9 ศตวรรษก่อนคริสตกาล ในพื้นที่ที่ปัจจุบันคือ ประเทศตูนิเซีย พวกเขาพัฒนาตัวเองกลายเป็นอาณาจักรการค้าที่ยิ่งใหญ่ แต่ผลจากสงครามใหญ่ 3 ครั้งกับชาวโรมันช่วง 264-146 ปีก่อนคริสตกาล ทำให้อำนาจของชาวคาร์เธจอ่อนแอลงกระทั่งถูกโรมันยึดครองในศตวรรษที่ 2

...
ทั้งนี้ มูเนียร์ ฟานตาร์ หัวหน้าทีมสำรวจกลุ่มนี้บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีเมื่อวันพฤหัสบดี (31 ส.ค.) ว่า นี่นับเป็นการค้นพบครั้งใหญ่ และไม่เพียงพบถนนและอนุสาวรีย์ที่แสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งของเมืองเนอาโปลิสเท่านั้น แต่ยังถังนับร้อยถังซึ่งเคยถูกใช้ในการผลิต ‘การัม’ (Garum) หรือปลาหมัก ซึ่งเคยเป็นอาหารรสเลิศของโลกโรมันโบราณ
“การค้นพบครั้งนี้ทำให้พวกเรารู้ว่า เนอาโปลิส เป็นศูนย์กลางขนาดใหญ่ในการผลิตการัมและปลาเค็ม และอาจจะเป็นแหล่งผลิตขนาดใหญ่ที่สุดในโลกยุคโรมันเลยก็เป็นได้ และอาจจะพูดได้ว่าความรุ่งเรืองของชาวเนอาโปลิสมาจากการัมนี้เอง” นายฟานตาร์ กล่าว