เจ้าหน้าที่รัสเซียเร่งเก็บของออกจากสถานกงสุล ในนครซาน ฟรานซิสโก ในรัฐแคลิฟอร์เนีย หลังถูกรัฐบาลสหรัฐฯ สั่งปิดเมื่อวันพฤหัสบดี เพื่อตอบโต้ที่รัสเซียลดจำนวนทูตสหรัฐฯ ในประเทศ...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มีผู้พบเห็นกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งออกมาจากปล่องควันของอาคารสถานกงสุลประเทศรัสเซียประจำนครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันศุกร์ที่ 1 ก.ย. หรือ 1 วันก่อนจะถึงเส้นตายที่รัฐบาลรัสเซียปิดสถานทูตแห่งนี้รวมทั้งอาคารที่อยู่อาศัยของเจ้าหน้าที่การทูตรัสเซีย ตามคำสั่งของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ
กลุ่มควันดำที่พวยพุ่งออกมาทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้นแจ้งหน่วยดับเพลิงให้เข้าไปตรวจสอบ แต่เจ้าหน้าที่ของสถานกงสุลรัสเซียยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ขณะที่สำนักงานดับเพลิงซานฟรานซิสโก ทวีตข้อความลงบนทวิตเตอร์ในเวลาต่อมาว่า ไม่มีไฟไหม้ สถานการณ์ทุกอย่างเป็นปกติ

...
ทั้งนี้ คำสั่งของสหรัฐฯ มีขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี (31 ส.ค.) เพื่อตอบโต้การลดจำนวนเจ้าหน้าที่การทูตสหรัฐฯ ในรัสเซีย โดยกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศให้รัสเซียปิดสถานกงสุลใหญ่ของพวกเขาในนครซานฟรานซิสโก ซึ่งเป็นสถานกงสุลเก่าแก่ที่สุดของรัสเซียในสหรัฐฯ รวมทั้งสถานทูตในกรุงวอชิงตัน ดีซี และนครนิวยอร์กด้วย
ต่อมาในวันศุกร์ เจ้าหน้าที่นายหนึ่งของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ บอกกับสำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น ว่า “รัสเซียไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้อาคารเหล่านี้เพื่อการทูต, การกงสุล หรือเพื่อการอยู่อาศัยได้อีกต่อไป” “ปฏิบัติการสาธารณะที่สถานกงสุลรัสเซียในซานฟรานซิสโก ต้องยุติลงภายในวันที่ 2 ก.ย. อาคารต่างๆ จะถูกปิด และการเข้าสู่อาคารเหล่านี้จะต้องได้รับอนุญาตจากกระทรวงต่างประเทศเท่านั้น”
อนึ่ง การปิดสถานกงสุลที่เกิดขึ้นเป็นความตึงเครียดทางการทูตล่าสุดระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย หลังจากรัสเซียถูกกล่าวหาว่า แทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ เมื่อปลายปี 2559