กองทัพเรือของสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์โจมตีกองทัพอิหร่านว่าไม่เป็นมืออาชีพ หลังจากส่งโดรนบินเข้าใกล้เครื่องบินรบ เอฟ/เอ-18 ในระยะอันตราย ห่างกันไม่ถึง 30 เมตรเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ 8 ส.ค. เกิดเหตุอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน ของประเทศอิหร่าน บินเข้าใกล้เครื่องบินรบ เอฟ/เอ-18 ของสหรัฐฯ ในระยะอันตราย โดยห่างกันไม่ถึง 100 ฟุต (ราว 30 ม.) ในขณะที่เครื่องบินของสหรัฐฯ กำลังเตรียมตัวลงจอดบนเรือบรรทุกเครื่องบิน ‘ยูเอสเอส นิมิตซ์’ ในอ่าวเปอร์เซีย ส่งผลให้ เอฟ/เอ-18 ต้องเปลี่ยนเส้นทางเพื่อหลบ

กองบัญชาการกลางแห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ (เอ็นเอฟซีซี) ออกแถลงการณ์ยืนยันในเวลาต่อมาว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริงโดยระบุว่า แม้พวกเขาจะใช้วิทยุเตือนหลายครั้ง แต่โดรน ‘คิวโอเอ็ม-1’ ของอิหร่านยังเปลี่ยนระดับความสูงอย่างไม่ปลอดภัยและไม่เป็นมืออาชีพ เข้ามาใกล้ เอฟ/เอ-18 “การบินที่อันตรายของ คิวโอเอ็ม-1 ในระยะใกล้กับปฏิบัติการของเครื่องบินปีกตรึง และอยู่ที่ความสูงใกล้เคียงกัน สร้างความเสี่ยงให้เกิดการเฉี่ยวชน และไม่เป็นไปตามกฎหมายทางทะเลระหว่างประเทศ” แถลงการณ์ระบุ

ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ นายหนึ่งบอกกับสำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น ว่าโดรนของอิหร่าน บินอยู่ต่ำกว่า เอฟ/เอ-18 ไม่ถึง 100 ฟุต และอยู่ห่างจากอากาศยานของสหรัฐฯ​ ไปด้านข้างประมาณ 200 ฟุต กองทัพต้องใช้วิทยุฉุกเฉินแจ้งเตือนไปยังอิหร่าน จนกระทั่งโดรนลำนี้ยอมล่าถอยออกไป

อนึ่ง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กองทัพเรือสหรัฐฯ และอิหร่านเผชิญหน้ากันในอ่าวเปอร์เซีย โดยกองทัพเรือสหรัฐฯ ระบุว่า กรณีล่าสุดนับเป็นเหตุการณ์ที่ 13 ของปี 2560 แล้ว และขณะที่ เจฟฟ์ เดวิส โฆษกกระทรวงกลาโหมเคยออกมาระบุว่า เครื่องบินหรือเรือของกองทัพสหรัฐฯ เผชิญหน้ากับเครื่องบินหรือโดรนของอิหร่านถึง 35 ครั้งในปี 2559

...