หนุ่มชาวสหราชอาณาจักรไปเที่ยววันหยุดกับแฟนสาวที่รีสอร์ตบนเกาะมายอร์กา ประเทศสเปน ก่อนที่เขาจะโดนจู่โจมโดยหญิงขายบริการนับสิบคน ซึ่งใช้มีดแทงและรุมทำร้ายเขาจนสลบ หลังเขาไม่ยอมมีเซ็กซ์ด้วย...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 6 ส.ค. ว่า นายไมเคิล เทย์เลอร์ ชาวสหราชอาณาจักร วัย 28 ปี กับแฟนสาววัย 25 ปี ชื่อลีห์ เข้าพักที่รีสอร์ตมากาลุฟ ที่พักยอดนิยมสำหรับชาวอังกฤษ บนเกาะมายอร์กา ประเทศสเปน เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่หลังจากที่เขากำลังกลับจากดื่มสุราในคืนวันหนึ่ง เขากลับถูกกลุ่มหญิงขายบริการนับสิบคนเข้ามารุมล้อม
“หญิงแอฟริกัน 10 คน ออกมาจากหลังต้นไม้” ไมเคิลเผยต่อสื่อ “พวกเธอพยายามให้ผมจ่ายเงินซื้อบริการ แต่พอผมปฏิเสธ หนึ่งในนั้นก็เอามีดแทงต้นขาของผม พวกเธอแข็งแรงยิ่งกว่าผู้ชาย และไม่มีความปรานีด้วย มันน่ากลัวมาก”
หลังจากนั้นเขาตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาล พร้อมกับแผลเย็บ 8 เข็ม โดยที่โทรศัพท์มือถือ, กุญแจต่างๆ และเงินสด 178 ปอนด์ ถูกขโมยไป “สิ่งต่อมาที่ผมจำได้คือ ผมตื่นขึ้นที่โรงพยาบาล ซัน เอสปาเซส ในเมืองปัลมา ผมแตกตื่นมาก เพราะไม่รู้ว่าผมมาที่นั่นได้อย่างไร” ไมเคิลกล่าว “ผมอยู่ที่นั่นประมาณ 2 ชั่วโมง จึงขอออกจากโรงพยาบาล เพราะผมไม่มีโทรศัพท์จะติดต่อหาแฟนของผม”
“หลังจากผมตื่นขึ้นมา สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ในกระเป๋าของผมก็คือบัตรธนาคาร ผมจึงไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม และนั่งแท็กซี่กลับไปที่มากาลุฟ” ไมเคิลกล่าว และว่าแฟนของเขาโล่งใจที่เห็นเขากลับมา
นายไมเคิลได้แจ้งความเรื่องนี้กับตำรวจสเปนแล้ว แต่ตำรวจบอกกับเขาว่า โอกาสที่จะเกิดการจับกุมมีน้อยมาก โดยเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เคยเกิดกรณีหญิงขายบริการชาวไนจีเรีย 6 คน และชายอีก 2 คน ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง ข้อหาปล้นทรัพย์นักท่องเที่ยวที่รีสอร์ตบนเกาะมายอร์กาเช่นกัน โดยทั้งหมดถูกปรับเงิน แต่ไม่มีใครติดคุก
...
ตำรวจสเปนเตือนด้วยว่า หญิงเหล่านี้ “ใช้วิธีการเหมือนหน่วยคอมมานโด” ในการปล้นนักท่องเที่ยวบนเกาะสวรรค์แห่งนี้ พวกเธอใช้แผนการที่เกือบจะเหมือนกับทหารในการซุ่มโจมตีนักท่องเที่ยวที่กำลังเมามายและกำลังเดินทางกลับโรงแรม.