โสมแดงพัฒนา

•วอชิงตัน–ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธของสหรัฐฯ ระบุศักยภาพขีปนาวุธยิงข้ามทวีป หรือไอซีบีเอ็ม ของเกาหลีเหนือ ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วและอาจยิงได้ไกลถึงดินแดนของสหรัฐฯ อาทิ รัฐอลาสกาและชายฝั่งภาคตะวันตกของประเทศ ได้ภายในปีหน้านี้ อย่างไรก็ตาม เกาหลีเหนือต้องเร่งพัฒนาระบบขีปนาวุธในช่วง “รี-เอนทรี” หรือ ช่วงที่ขีปนาวุธกลับลงสู่ชั้นบรรยากาศโลกให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หาไม่แล้วขีปนาวุธจะ ระเบิดกลางอากาศก่อนถึงเป้าหมาย.

จับตาไต้ฝุ่นโนรุ

•โตเกียว–ทางการญี่ปุ่นอยู่ระหว่างเฝ้าติดตามการก่อตัวของไต้ฝุ่น “โนรุ” อยู่ระหว่างเคลื่อนตัวจากซีกโลกใต้ขึ้นมายังซีกโลกเหนือมุ่งหน้าสู่ญี่ปุ่น โดยความเร็วลมศูนย์กลางพายุลูกนี้อยู่ระหว่าง 194-240 กม.ต่อชั่วโมง ถือเป็นพายุรุนแรงที่สุดมากที่สุดของปีนี้ อย่างไรก็ตาม ความเร็วลมเฉลี่ยของพายุลูกนี้ยังขึ้นๆลงๆ และจะเริ่มส่งผลถึงญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยระดับการเตือนภัยพายุเมื่อวันอังคาร 1 ส.ค. อยู่ที่ขั้น 3 หรือ 4.

ปรามไต้หวัน

• เซี่ยงไฮ้–สื่อมวลชนจีนรายงานอ้างถ้อยแถลง รมว.กลาโหม ระบุกองทัพประชาชนจีนเชื่อมั่นศักยภาพสูงสุดและความพร้อมเต็มที่ในภารกิจปกป้องอธิปไตย ท่าทีของรัฐบาลจีนแสดงถึงความจำเป็นต้องปกป้องดินแดนเกาะไต้หวัน ซึ่งจีนถือเป็นดินแดนอธิปไตยของประเทศด้วย แต่จะไม่ใช้กำลังยึดครองไต้หวัน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนพยายามปรามถึงไต้หวันอย่าพยายามเคลื่อนไหวประกาศแยกเอกราชจากจีน.

วิถีมนุษย์กับสัตว์ป่า

•นิวเดลี–รายงานของรัฐบาลอินเดีย ระบุตั้งแต่ช่วงเดือน เม.ย.ปี 2557 ถึงเดือน พ.ค.ปีนี้ ค่าเฉลี่ยชาวบ้านถูกช้างป่าหรือเสือสังหาร ทั่วประเทศ 1,143 ราย หรือเฉลี่ยวันละ 1 ราย ขณะเดียวกัน ช่วงเวลาเดียวกันนี้ ช้างป่าถูกมนุษย์สังหาร 84 ตัว เสือถูกสังหาร 345 ตัว พื้นที่ที่มีรายงานมนุษย์ถูกสัตว์สังหารมากที่สุดคือแถบเบงกอลตะวันตก ทั้งนี้ อินเดียหลงเหลือช้างป่าอยู่มากราว 30,000 ตัว ส่วนเสือในป่า ธรรมชาติมีอยู่ราว 2,226 ตัว พื้นที่อาศัยของ สัตว์ป่าถูกมนุษย์รุกล้ำมากขึ้นเรื่อยๆ.

...

ประชุมอาเซียน

• มะนิลา–เวทีประชุมระดับ รมว.ต่างประเทศอาเซียนที่ฟิลิปปินส์ เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ร่วมหารือกับผู้แทนจากนานาประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น สหรัฐฯ อินเดีย แคนาดาและรัสเซีย ซึ่งจะมีขึ้นตั้งแต่วันศุกร์นี้ถึงวันอังคารหน้า กำหนดหัวข้อครอบคลุมปัญหาด้านความมั่นคงในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยคุกคามจากกลุ่มติดอาวุธอิสลามิกหัวรุนแรง โดยทางการฟิลิปปินส์เตรียมความพร้อมระดมเจ้าหน้าที่เฝ้าดูแลความปลอดภัยกว่า 13,000 นาย ต้อนรับคณะผู้แทนมากกว่า 1,700 คน.