รัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินต่อนายนิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา หลังจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญโดยไม่ฟังเสียงคัดค้านจากประชาชนและนานาชาติ...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินต่อนายนิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีแห่งประเทศเวเนซุเอลาแล้วเมื่อวันจันทร์ หลังจากเขาผลักดันให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญเมื่อในอาทิตย์ แม้ว่านานาชาติรวมทั้งสหรัฐฯ จะออกมาต่อต้านก็ตาม

นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศการคว่ำบาตจนายมาดูโร โดยระบุว่า “การเลือกตั้งอย่างผิดกฎหมายเมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) เป็นสิ่งยืนยันว่า มาดูโร เป็นเผด็จการผู้ไม่สนใจต่อความต้องการของประชาชนชาวเวเนซุเอลา” อนึ่ง ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรใหม่ ทรัพย์สินทั้งหมดของนายมาดูโรที่อยู่ในสหรัฐฯ จะถูกอายัด ขณะที่บริษัทหรือบุคคลชาวอเมริกัน จะถูกห้ามไม่ให้ทำธุรกิจกับผู้นำเวเนซุเอลารายนี้

สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ
สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ

...

อย่างไรก็ตาม ตามมาดูโรออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์ในเวลาต่อมาว่า “การคว่ำบาตรจากจักรวรรดิไม่ทำให้เขาหวาดกลัว จักรพรรดิโดนัลด์ ทรัมป์ ตัดสินใจที่จะเล่นงานผม แสดงให้เห็นถึงความสิ้นหวังและความเกลียดชังของเขา” “ผมไม่ทำตามคำสั่งของรัฐบาลต่างชาติ และจะไม่มีวันทำ เชิญคว่ำบาตรผมเลย แต่ชาวเวเนซุเอลาได้ตัดสินใจที่จะเป็นอิสระ และผมเป็นประธานาธิบดีอิสระของประเทศเสรี”

ทั้งนี้ นายมาดูโรกำลังวางเดิมพันโดยหวังจะใช้สภาร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกพลเรือน 545 คน เพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่และยุบรัฐสภา ซึ่งฝ่ายค้านครองเสียงข้างมาก รวมทั้งแก้กฎหมายต่างๆ

การเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญเมื่อวันอาทิตย์ เกิดขึ้นท่ามกลางเหตุปะทะนองเลือดในเมืองหลวงกรุงการากัส และเมืองอื่นๆ โดยกลุ่มฝ่ายค้านซึ่งบอยคอตการเลือกตั้งครั้งนี้ระบุว่า ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนน 88% ไม่ได้ไปใช้สิทธิ์ แต่คณะกรรมการการเลือกตั้งเวเนซุเอลา ยืนยันว่า มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ 41.5%