ดีเอสไอ-กรมศุลกากร ร่วมแถลงข่าวประเมินภาษีรถหรูนำเข้า ลอตแรก 30 คัน สำแดงอินวอยซ์เท็จชำระภาษีขาด ทำรัฐเสียหาย 650 ล้านบาท จ่อส่งลอต 2 ประเมินเพิ่มอีก 300 คัน...
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ 16 มิ.ย. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ร่วมกับ นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ ผบ.สำนักคดีภาษีอากร พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ ผบ.สำนักคดีปฏิบัติการคดีพิเศษภาค พ.ต.ต จตุพล บงกชมาศ ผบ.สำนักปฏิบัติการพิเศษ พ.ต.ท.จักรกฤษ์ วิเศษเขตการณ์ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 2 นายมเหสักข์ พันธ์สง่า ผอ.ส่วนคดีภาษี 2 นายพริสร สุขประเสริฐ นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ นายนักรบ ศรีจันทร์ นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ และนายอิทธินันท์ สาโรวาท นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ ร่วมแถลงความคืบหน้ากรณีการปราบปรามการลักลอบนำเข้ารถยนต์และหลีกเลี่ยงชำระภาษีศุลกากร
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ตามที่กระทรวงยุติธรรมได้มีนโยบายให้ดีเอสไอดำเนินการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปราบปรามกลุ่มขบวนการกระทำผิดเกี่ยวกับการลักลอบนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรและหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร อันส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐ และสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมากนั้น ดีเอสไอได้ดำเนินการปราบปรามขบวนการนำรถยนต์เข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงภาษีอากร และสำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริง รวมทั้งกระบวนการรถจดประกอบผิดกฎหมาย อย่างต่อเนื่อง โดยมีการบูรณาการกับกรมศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายกุลิศ กล่าวว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กรมศุลกากร มีการตรวจสอบและปรับปรุง ขณะนี้กรมศุลกากรได้ร่วมตรวจสอบ และกำลังแก้ไขปรับปรุงเกณฑ์ ในการเสียภาษีในการนำเข้ารถให้เป็นถูกต้อง เป็นไปตามมาตรฐานสากล และโปร่งใส เนื่องจากเกณฑ์ดังกล่าว ใช้มาตั้งแต่ปี 2547 หลังจากนี้จะเชิญดีเอสไอ อาจารย์ และผู้เชี่ยวชาญ เข้ามาร่วมในการคิดเกณฑ์ภาษีให้ถูกต้องเหมาะสมใหม่ คาดจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ค.นี้ นอกจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ส่วนกลางของกรมศุลกากรเข้าไปร่วมตรวจสอบ กับเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรที่ประจำอยู่ที่จุดตรวจของท่าเรือแต่ละท่าเรือด้วย ซึ่งหากพบมีปัญหาใดให้รายงานมายังกรมศุลกากรทันที เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและการทำงานให้โปร่งใสขึ้น
...
พ.ต.ท.กรวัชร์ เผยว่า ดีเอสไอจึงขอให้กรมศุลกากรประเมินราคารถยนต์เบื้องต้น ตามเอกสารหลักฐานของดีเอสไอ ประกอบด้วยรถยนต์ยี่ห้อลัมโบร์กินี จำนวน 31 คัน และรถยนต์ยี่ห้อเลกซัส จำนวน 1 คัน ซึ่งกรมศุลกากรได้จัดส่งข้อมูลบัญชีรายละเอียด การคำนวณภาษีรถยนต์กลับมายังดีเอสไอแล้ว จำนวน 30 คัน พบว่ามีมูลค่าภาษีขาด รวมทั้งสิ้นประมาณ 650 ล้านบาท ส่วนอีก 2 คัน เป็นรถลัมโบร์กินี พบว่าเป็นรถเอกสารนำเข้าหรือใบอินวอยซ์ไม่ถูกต้อง 1 คัน และเป็นรถจดประกอบ 1 คัน ซึ่งกรมศุลกากรกำลังตรวจประเมินภาษีที่ขาดไปอยู่
"และอีกส่วนหนึ่งดีเอสไอตรวจสอบพบเพิ่ม มีการนำเข้ารถลัมโบร์กินี 11 คัน จากประเทศอังกฤษ และนำเข้าประเทศไทย ก่อนสำแดงเอกสารกับกรมศุลกากร ว่าเป็นลัมโบร์กินีรุ่นกัลลาร์โด้ ซึ่งเป็นรุ่นเล็ก และราคาถูก หลังจากนั้นจะนำไปจดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบกว่าเป็น ลัมโบร์กินี รุ่นอเวนทาดอร์ รุ่นใหม่ที่ราคาแพงกว่า ขณะนี้กรมขนส่งทางบกกำลังตรวจสอบอยู่ ที่ผ่านมาขบวนการรถหรู มีการนำรถลัมโบร์กินีไปจดกับกรมขนส่งบก ให้เป็นรถจดประกอบ ไม่ได้นำเข้าทั้งคัน โดยมีการเสียภาษีโครงรถประมาณ 300,000 บาท เครื่องยนต์ 30,000 บาท ซึ่งราคาเครื่องยนต์ถูกกว่ารถจักรยานยนต์อีก รวมแล้วเสียภาษีทั้งคันประมาณ 900,000 บาท เอง" พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าว
พ.ต.กรวัชร์ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้จะส่งรถอีกจำนวนกว่า 300 คันให้กรมศุลกากรตรวจสอบภาษีอีก ซึ่งจำนวนดังกล่าวรวมอยู่ในกลุ่มรถที่ยัดไว้ 122 คันจากโชว์รูมต่างๆและรถที่อยู่ในความครอบครองแล้ว ทั้งนี้เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีรถหรู กับผู้ประกอบการ และบริษัทที่นำเข้า ส่วนผู้ครอบครอง เรามองว่าอาจเป็นผู้เสียหาย เนื่องจากเค้าไม่รู้ว่าซื้อรถที่ไม่ถูกกฎหมายมา ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหา ไม่ยอมจ่ายค่าปรับในการเลี่ยงภาษีรถหรูนั้น ทั้งนี้กรมศุลกากรก็มีมาตรการทั้งจำและปรับคอยดำเนินการอยู่แล้ว
นายกุลิศ กล่าวว่า หากภายหลังดีเอสไอส่งข้อมูลรถจำนวน 300 คันมาให้ตรวจสอบก็ต้องดูว่าข้อมูลต่างๆ ของรถแต่ละคันครบถ้วนแค่ไหน ถ้าข้อมูลครบถ้วนจะทำให้การตรวจสอบรวดเร็วและง่ายขึ้นซึ่งอาจไม่เกิน 1 สัปดาห์สามารถตรวจได้แล้วเสร็จ.