มิจฉาชีพสมคบกันตั้งแก๊งปลอมเอกสารทั้งบัตรข้าราชการ วุฒิการศึกษา ใบป.4 อาวุธปืน แบ่งหน้าที่กันทำ ติดต่องานทางออนไลน์ ส่งให้ลูกค้าทางไปรษณีย์โดยจ้างคนอื่นเปิดบัญชีใช้โอนเงิน พฤติกรรมน่าจะเข้าข่ายฟอกเงิน อั้งยี่ซ่องโจรด้วย... 

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 11 มิ.ย. ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง บก.ทท. พ.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบก.สปพ. และเจ้าหน้าที่สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่1236-1241 ลงวันที่ 26 พ.ค. ข้อหา "ร่วมกันปลอมเอกสารราชการ" จำนวน 6 คน ประกอบด้วย 1. นายศุภชัย ไชยนิตย์ อายุ 20 ปี 2. น.ส.จิตติมา อินเบิด อายุ 26 ปี 3. นายสุริยา คำสองสี อายุ 31 ปี 4. น.ส.ประพัฒศร สายรัตน์ อายุ 24 ปี 5. นายสท้าน รอดพันธ์ อายุ 44 ปี 6. นายนิธิภัทร ใจดี อายุ 52 ปี

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่าการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 พ.ค. เวลา 16.30 น. ฝ่ายสืบสวนได้ทำการจับกุม นายนิธิภัทร์ และ นายสท้าน ได้ที่บริเวณร้านถ่ายรูปชื่อ กีน่าโฟโต้เอ็กซ์เพรส เลขที่ 93/90 หมู่ 7 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยทั้งคู่รับปลอมแปลงเอกสารราชการ เช่น วุฒิการศึกษา บัตรข้าราชการตำรวจ เอกสารใบอนุญาตพกพาอาวุธปืน (ใบป.4) เป็นต้น นำเอกสารส่งขายทั่วประเทศผ่านทางไปรษณีย์ จากนั้นเจ้าหน้าที่สืบทราบว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการยังไม่ถูกจับกุม จึงทำการขยายผลก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอให้ศาลออกหมายจับ จนสามารถติดตามตัวคนร้ายครบทั้งหมด

จากการสอบสวน นายนิธิภัทร์ ให้การว่า ตนเป็นเจ้าของร้านถ่ายเอกสาร และทำหน้าที่ปลอมเอกสาร ซึ่งต้นแบบเอกสารจะนำมาจากทางอินเทอร์เน็ต ส่วนวิธีการตนดูและจำมาจากทางยูทูบ ซึ่งตนรู้จักกับ นายสท้าน อยู่ก่อนแล้ว โดยนายสท้านจะคอยหางานมาให้ รับงานมาจากนายสุริยาอีกต่อหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ตนเพิ่งจะทำครั้งนี้เป็นครั้งแรกและได้ค่าจ้าง 1,000 บาท ซึ่งนายสท้านได้ใช้บัญชีธนาคารของแฟนสาว คือ น.ส.ประพัฒศร ในการรับโอนเงินจากนายสุริยา

...

ขณะที่ นายสุริยา กล่าวว่าตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป และอยู่ในกลุ่มไลน์รถหลุดจำนอง ก่อนจะมีผู้ใช้ไลน์ชื่อ "อัครา" ติดต่อให้ตนปลอมใบ ป.4 ในราคา 3,500 บาท ซึ่งผู้ใช้ไลน์อัครา ได้ซื้อบัญชีของนายศุภชัย ในราคา 2,000 บาท ก่อนจะใช้บัญชีที่ซื้อมาโอนเงินให้ตน และตนได้ใช้บัญชีของ น.ส.จิตติมา (เป็นเด็กพิเศษ) คนข้างบ้านในการรับเงิน ตนซึ่งรู้จักกับนายสท้านในกลุ่มไลน์พระเครื่องอยู่แล้ว จึงลองติดต่อพูดคุยกันและโอนเงินให้กับนายสท้าน จำนวนเงิน 2,800 บาท ได้กำไร 700 บาท จากการทำเอกสารในครั้งนี้ และเพิ่งทำเป็นครั้งแรก ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 74 หมู่ 1 ต.คลองทับจันทร์ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจับกุมในครั้งนี้ส่วนหนึ่งพบว่า เป็นขบวนการจำหน่ายสิ่งของผิดกฎหมายออนไลน์ มักมีการนำบัญชีของผู้อื่นมาใช้ มีการรับจ้างเปิดบัญชีแลกกับค่าจ้างเพียง 1,000-2,000 บาท และการรับซื้อบัญชีธนาคาร พร้อมบัตร ATM มาเกี่ยวข้องด้วย โดยเป็นการทำเป็นขบวนการของกลุ่มผู้กระทำผิดกฎหมาย หรือจำหน่ายสิ่งของผิดกฎหมาย มีจุดประสงค์ปิดบังอำพรางธุรกรรมทางการเงินหลบเลี่ยงการตรวจสอบ ร่วมกับการแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยอาจใช้สำเนาเอกสารเท็จในการทำธุรกรรม และนำเงินที่ได้จากการกระทำผิดไปฟอกในธุรกิจอื่น นับเป็นปัญหาสำคัญในการบังคับใช้กฎหมายปราบปรามอาชญากรรมในปัจจุบัน ซึ่งการที่ผู้ใดมีพฤติกรรมรับจ้างเปิดบัญชีการขายบัญชีหรือการยินยอมให้ผู้อื่นนำบัญชีไปใช้ทำธุรกรรมในทางที่ผิดกฎหมาย ถือว่าผู้นั้นมีส่วนรู้เห็นเป็นใจสนับสนุนโจรให้ก่ออาชญากรรม เป็นตัวกลางหนึ่งของกระบวนการการกระทำผิดกฎหมายนั้นด้วย รวมถึงขณะนี้มิจฉาชีพมีวิธีการส่งของผิดกฎหมายผ่านทางไปรษณีย์ ซึ่งได้ประสานงานกับทางไปรษณีย์แล้วเพื่อติดต่อหาซื้ออุปกรณ์ในการตรวจสอบสิ่งของที่อยู่ภายในก่อนทำการจัดส่ง

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา "ร่วมกันปลอมเอกสารราชการ" นอกจากนี้จะมีการพิจารณาเพิ่มข้อหา "อั้งยี่ ซ่องโจร" "ฟอกเงิน" แก่ผู้ต้องหาเพิ่มเติมด้วย.