ผอ.เขตพญาไท ตรวจพื้นที่ไฟไหม้ชุมชนวัดไผ่ตัน ภายใน ซ.ประดิพัทธ์ 23 เบื้องต้นวอดกว่า 13 หลังคาเรือน ตำรวจคาดไฟฟ้าลัดวงจร ขณะ “ผู้ว่าฯ อัศวิน” ติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ ยังห่วงใยส่งลูกน้องดูแลจัดที่พักชั่วคราว พร้อมสำรวจความเสียหาย ช่วยประชาชน
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 8 มิ.ย. 60 พ.ต.ต.หญิง จิราพร มณฑลทอง สว.(สอบสวน) สน.บางซื่อ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ชุมวัดไผ่ตัน ซอยประดิพัทธ์ 23 ถ.ประดิพัทธ์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาและไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.เศกสิทธิ์ สุภาอ้วน ผกก.สน.บางซื่อ พ.ต.ท.ปริญญา กลิ่นเกษร รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.สยมภู กุลจิตติสิโรดม สว.ป. และประสานรถน้ำดับเพลิงจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร จำนวน 30 คัน และอาสากู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นชุมชนแออัด ปลูกบ้านไม้เรียงชิดติดกัน เพลิงลุกไหม้จากบ้านเลขที่ 43 บ้านต้นเพลิง แล้วโหมไหม้รุนแรงเพราะบ้านส่วนใหญ่สร้างจากไม้ ประกอบกับทางเดินแคบเข้าทำงานดับเพลิงลำบากต้องลากสายดับเพลิงเข้าไปเป็นระยะทางยาวกว่า 100 เมตร และต้องใช้เวลาฉีดน้ำสกัดเพลิงประมาณ 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
เบื้องต้นมีคนเจ็บเล็กน้อย 2 ราย รายแรกชื่อ นายวินัย มั่งเจียม อายุ 49 ปี อปพร. เขตราชเทวี ที่มาช่วยดับไฟ ถูกหลอดไฟแตกบาดที่หลังมือซ้าย อีกคนชื่อ นายหวี่ อายุ 23 ปี ชาวพม่า อาชีพลูกมือร้านขายผ้าที่สวนจตุจักร ถูกไฟไหม้ที่หน้าแข้งซ้าย จึงทำแผลเบื้องต้นก่อนให้กลับบ้านไป โดยเหตุการณ์นี้ไม่มีผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด

...
จากการสอบถาม นายดนิศร ทองบู่ อายุ 37 ปี ผู้จัดการบริษัทแสงฟ้าก่อสร้าง จำกัด พักในแคมป์คนงานอยู่ตรงข้ามกับบ้านที่เกิดเหตุทราบว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้กลิ่นเหม็นไหม้คล้ายหม้อหุงข้าวไหม้ จึงให้คนงานเดินสำรวจตามห้องพักภายในแคมป์ที่พักคนงานแต่ก็ไม่พบอะไร จนกระทั่งไฟลุกไหม้จากบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับแคมป์คนงาน เลยตะโกนเรียกให้คนงานเอาน้ำและถังดับเพลิงไปช่วยกันฉีดดับเพลิง แต่ไม่สามารถดับไฟได้ก่อนไฟลุกโหมอย่างรวดเร็ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ส่วนพยานที่เห็นเหตุการณ์อีกคนระบุว่า บ้านต้นเพลิงเกิดที่บริเวณชั้นสอง บ้านเลขที่ 43 ซึ่งเป็นบ้านร้างไม่มีผู้อาศัย เนื่องจาก นายวัลลภ ขาวมงคล เจ้าของเดิมได้ย้ายครอบครัวออกไปนานแล้ว โดยเพลิงเริ่มลุกไหม้ยังไม่ทราบเหตุแล้วมีลมพัดแรง ทำให้ลุกลามไปยังบ้านเรือนข้างเคียงอย่างรวดเร็ว อีกทั้งชุมชนดังกล่าวเป็นชุมชนเก่าแก่ ปลูกด้วยไม้เกือบทั้งหมด บ้านแต่ละหลังมีอายุกว่า 40 ปี
ด้าน พ.ต.อ.เศกสิทธิ์ เผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าบ้านต้นเพลิงเป็นบ้านเช่า แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ประกอบกับบ้านต้นเพลิงมีการเก็บพวกของเก่าและขวดน้ำพลาสติก พอเกิดไฟลุกไหม้ทำให้เพลิงโหมอย่างรวดเร็ว ขณะนี้ได้ประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบบ้านต้นเพลิงเพื่อหาสาเหตุ และติดตามตัวเจ้าของบ้านเข้าให้ปากคำเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
ด้านนางกนกรัตน์ พันธ์นรา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพญาไท กล่าวว่า เบื้องต้นทางสำนักงานเขตได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยภายในศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนชุมชนวัดไผ่ตัน โดยให้ชาวบ้านที่บ้านถูกไฟไหม้มาลงทะเบียนไว้เป็นหลักฐาน เพื่อจะได้รวบรวมจำนวนผู้เสียหายทั้งหมดไปประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือ ขณะเดียวกัน ได้ประสานสำนักอนามัยกรุงเทพมหานครเข้าตรวจสุขภาพของผู้ประสบภัย และได้ตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวที่โรงเรียนวัดไผ่ตันและวัดไผ่ตัน ซึ่งทางทหาร พล.ม.2 รอ. และทางสำนักงานเขตได้นำเครื่องนุ่งห่ม ถุงยังชีพ มาแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัย
ด้าน นายยุทธพันธุ์ มีชัย ผู้ช่วยเลขาฯ ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่หน่วยต่างๆ ที่อำนวยการดับเพลิงจนสงบ และขอบคุณทหารที่นำเครื่องนอนมาแจกจ่าย พร้อมมาดูแลพี่น้องผู้ประสบภัย โดยเบื้องต้น มีบ้านเรือนประชาชนถูกเพลิงไหม้ไปกว่า 13 หลังคาเรือน พื้นที่กว้าง 250 ตารางวา ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัยประมาณ 100 คน ซึ่งทั้งหมดตนได้รายงานให้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่า กทม. ซึ่งขณะนี้ปฏิบัติภารกิจอยู่ต่างประเทศ แต่ก็ยังห่วงใยให้ตนมาดูแล
สำหรับผู้ประสบเหตุ 50% เป็นชาวต่างชาติประเทศเพื่อนบ้านที่มาเช่าอาศัยทำงาน แต่เราไม่เลือกปฏิบัติดูแลอย่างเท่าเทียมกัน พร้อมจะประสานสถานทูตต่างๆ มาดูแล และทำเอกสารพาสปอร์ต เพราะบางคนเอกสารถูกไฟไหม้ไปแล้ว ส่วนสาเหตุการเกิดเหตุการเกิดเพลิงไหม้อยู่ระหว่างการสอบสวนของตำรวจ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง