กองปราบปราม เตรียมออกหมายจับพลเรือน 15 ราย ทหาร 3 ราย เอี่ยวส่งระเบิดขายทางไปรษณีย์ แต่ไม่เกี่ยวกับเหตุระเบิด 3 จุดในกรุงเทพฯ  

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 มิ.ย. ที่ กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบก.ป. ร่วมกันแถลงความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน ได้รับแจ้งว่า มีวัตถุระเบิด และเครื่องกระสุน ถูกซุกซ่อนในกล่องพัสดุของบริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง สาขาบางเขน ตรวจสอบแล้วพบเป็นวัตถุระเบิดและเครื่องกระสุนดังกล่าวเป็นของทางราชการทหาร

พล.ต.ต.สุทิน กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (6 มิ.ย.) ทหารพระธรรมนูญได้เดินทางมาร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม โดยให้ดำเนินคดีเกี่ยวกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งผู้จำหน่าย ผู้จัดหา ร่วมถึงผู้สั่งซื้อในกระบวนการทั้งหมด ในข้อหา “มีอาวุธปืนและวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้โดยผิดกฎหมาย”

ทั้งนี้ จากการสืบสวนและจากการรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่า มีผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นพลเรือนประมาณ 15 ราย และมีเจ้าหน้าที่ทหารที่เกี่ยวข้องอีก 3 นาย พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่กองปราบปราม สนธิกำลังทหาร นำกำลังไปตรวจค้นบ้านผู้ต้องสงสัย 2 ราย ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร และจ.จันทบุรี

พล.ต.ต.สุทิน กล่าวต่อว่า จุดแรกเป็นห้องพักเลขที่ 78/17 ม.4 ต.บ้านเกาะ อ.เมืองสมุทรสาคร ตรวจยึดระเบิดขว้างชนิด M26 แบบสังหาร 1 ลูก อาวุธปืนขนาด.45 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนอาก้า 1 กระบอก เครื่องกระสุน 75 นัด เสื้อเกราะ และกล่องกระดาษไปรษณีย์

...

ส่วนจุดที่สอง เป็นการขยายผลจากจุดแรก โดยเข้าตรวจค้นบ้านพักเลขที่ 28 ม.4 ต.วังโตนด อ.นายายอาม จ.จันทบุรี เป็นบ้านของนายสายชล หรือ อส.ชล สิงห์คราญ อายุ 47 ปี ตรวจยึด อาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก ซองกระสุน 3 ซอง เครื่องกระสุน 124 นัด ทั้งนี้ ได้ควบคุมตัวนายสายชล ให้พนักงานสอบสวน สภ.นายายอาม ดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.ต.สุทิน กล่าวอีกว่า ในส่วนทหารทั้ง 3 นาย และพลเรือนอีก 15 คน ขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ มทบ.11 พนักงานสอบสวนกำลังอยู่ระหว่างขออนุมัติหมายจับ ส่วนการสอบสวนทหารทั้ง 3 นาย ให้การในเบื้องต้นว่า ได้ขโมยระเบิดและเครื่องกระสุนจากคลังอาวุธของกองพันทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ ก่อนนำไปขายให้กับลูกค้าทั่วประเทศ ทั้งนี้ วัตถุระเบิดที่ตรวจยึดได้ดังกล่าวยังไม่พบความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ระเบิด 3 จุด ในพื้นที่ กทม.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม หากพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงบุคคลใดไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ หรือพลเรือน จะดำเนินคดีโดยไม่มีการละเว้น ส่วนการที่จะมีการสั่งทางทางเว็บไซต์ หรือไม่นั้น ที่ผ่านมา ก็มีการสั่งกัน แต่ไม่มาก ซึ่งจะต้องสอบสวนขยายผลต่อไปว่า ผู้ที่สั่งซื้อระเบิดและเครื่องกระสุนปืนนำไปใช้ทำอะไร ทั้งนี้ต้องรอเจ้าหน้าที่ทหารส่งตัวมาให้กองปราบปราม สอบสวนก่อน