หนุ่มสมุทรปราการ เครียดตกงานมา 3 เดือน หยิบปืน AK47 มายิงเล่น 5 นัด กระสุนเฉี่ยวเพื่อนบ้าน โชคดีไม่ได้รับบาดเจ็บ ตร.ค้นในบ้าน เจออาวุธสงครามอีกเพียบ ...
เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 12 เม.ย.2560 พล.ต.ต.ธนา ชูวงษ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.วสันต์ บุญเจริญ รอง ผบก. พ.ต.อ.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบก. พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางพลี พร้อมกำลังตำรวจ สภ.บางพลี เจ้าหน้าที่ทหารสังกัด ร้อย รส.ร.21 พัน.2 รอ.(อ.บางพลี) เข้าตรวจค้นบ้านพักเลขที่ 54/1 หมู่9 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พบนายศักดา ทรงศิริ อายุ 40 ปี พร้อมอาวุธสงครามในบ้าน และที่ตัวของผู้ต้องหา รวม 6 กระบอก
ประกอบด้วย ปืน AK47 จำนวน 2 กระบอก พร้อมซองกระสุน และกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง, ปืนเอ็ม16 ติดลำกล้อง พร้อมขาทราย จำนวน 1 กระบอก และซองกระสุน, ปืนลูกซอง จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืน 7 นัด และปืนพกสั้น จำนวน 2 กระบอก พร้อมซองกระสุน และเครื่องกระสุนปืนขนาดต่างๆ รวม 247 นัด
สืบเนื่องจาก เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันเดียวกัน ร.ต.ท.อำนวจ บัวหอม รอง สวป. รับแจ้งว่า มีคนใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปในบ้านเลขที่ 44 หมู่9 ท้ายซอยบางปลา 63 ต.บางปลา อ.บางพลี จึงนำกำลังสายตรวจเข้าตรวจสอบ พบ น.ส.สดับพร จันโต อายุ 45 ปี ถูกกระสุนปืนไม่ทราบขนาด ยิงเฉี่ยวโดนชายผ้าถุงที่สวมใส่อยู่ แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ
ตรวจสอบเบื้องต้นพบรอยกระสุนปืนที่ประตู และพบหัวกระสุนไม่ทราบขนาดตกอยู่ โดยผู้เสียหายเชื่อว่า น่าจะยิงมาจากบ้านฝั่งตรงข้าม จำนวน 4-5 นัด จึงเดินเข้าไปตรวจสอบบ้านฝั่งตรงข้าม พบผู้ต้องหานั่งอยู่ในรถกระบะอีซูซุ ยกสูง ทะเบียน วค-2981 กทม. และพบอาวุธปืนสั้น 2 กระบอกเหน็บอยู่ที่เอว ในลักษณะพร้อมยิง และยังพบอาวุธปืน AK47อยู่ในรถ จึงควบคุมตัว และรายงานให้ผู้บังคับบัญชา ก่อนประสานทหารและตำรวจ เข้าตรวจค้น ก็พบอาวุธปืนเพิ่ม จึงนำตัวพร้อมของกลาง มาสอบสวนเพิ่มเติม
...
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายศักดา ให้การว่า เกิดความเครียดสะสม เนื่องจากถูกเลิกจ้างงานมาราว 3 เดือน จึงนำอาวุธปืนที่มีอยู่มายิงเพื่อคลายเครียด โดยใช้ปืน AK47 ที่พบในรถยิงออกไป 5 นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา มีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง, มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำอย่างละเอียดก่อนแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีกครั้ง.