กองปราบบุกรวบ หนุ่มรับจ้างโกนหัว-ห่มจีวร ปลอมเป็นเจ้าอาวาสวัดดัง สวมรอยเปิดบัญชีธนาคาร ลอบโอนเงินจากบัญชีเดิมไปบัญชีใหม่ เสียหายกว่า 1.8 ล้านบาท
วันที่ 27 ธันวาคม 2568 พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ป.สั่งการ พ.ต.อ.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.กิติบดินทร์ กิมเซียะ, พ.ต.ต.ชนกันต์ บุรผากา สว.กก.5 บก.ป. ร.ต.อ.ธนโชติ ภุชชงค์, ร.ต.อ.นิติธร ประชันกาญจนา และ
ร.ต.ท.เรวัต ห้วยหงษ์ทอง รอง สว.กก.5 บก.ป.จับกุม นายมานพ อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1472/2562 ลงวันที่ 24 ก.ย.62 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม, ร่วมกันลักทรัพย์, ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และ ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ได้ในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ต.ทุ่งกระพังโหม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป. ได้รับแจ้งจากธนาคารแห่งหนึ่งว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพวางแผนจ้างวาน นายมานพ ผู้ต้องหา โกนหัว โกนคิ้วห่มจีวร ปลอมตัวเป็นเจ้าอาวาสใน จ.นครปฐม และ จ.สุพรรณบุรี โดยเลือกเจ้าอาวาสที่มีเงินเก็บในบัญชีหลักแสนถึงหลักล้าน จากนั้นได้พาไปถ่ายรูปเพื่อนำไปใช้จัดทำ “หนังสือสุทธิพระปลอม” แล้วนำเอกสารปลอมดังกล่าวไปยื่นขอเปิดบัญชีธนาคารเล่มใหม่กับทางธนาคาร โดยอ้างว่าสมุดธนาคารเล่มเก่าหาย จนเจ้าหน้าที่หลงเชื่ออนุมัติให้เปิดบัญชี
...
เมื่อได้บัญชีใหม่แล้วกลุ่มคนร้ายได้ดำเนินการโอนเงินจากบัญชีเดิมที่มีอยู่จริงของพระเถระรูปนั้นเข้ามายังบัญชีที่นายมานพที่สวมรอยเพิ่งเปิดใหม่ แล้วรีบดำเนินการถอนเงินสดออกจากระบบทันทีจนเกลี้ยงบัญชี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1.8 ล้านบาท
สอบสวน นายมานพ รับสารภาพว่า ขณะนั้นตนทำอาชีพขายเครื่องกรองน้ำ ช่วงนั้นขายไม่ค่อยดี ไม่มีเงินใช้จ่าย ประกอบกับมีผู้ร่วมขบวนการอีก 2 รายมาชักชวนให้ปลอมเป็นพระไปเปิดบัญชีธนาคาร โดยได้รับค่าจ้าง 20,000 บาท ก่อนจะหลบหนีไปซ่อนตัวทำงานรับจ้างนานกว่า 10 ปี จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบตามจับกุมได้ดังกล่าว จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.