"บิ๊กโจ๊ก" เข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปปป. หลังเจ้าหน้าที่จู่โจมเข้าค้นเครือข่ายที่พัก 11 จุด หลังถูกแจ้งความคดี 157 ขนทองแท่ง 246 บาท ติดสินบนบุคคลใน ป.ป.ช. โดยเบื้องต้นยังปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 26 ธ.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้คณะทำงานในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เข้าค้นบ้านพัก อาคารสำนักงาน และอาคารที่มีความเกี่ยวข้องกับ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก อดีตรอง ผบ.ตร. รวม 11 จุด ในกรุงเทพฯ และ จ.สุราษฎร์ธานี หลังถูกแจ้งความในคดีเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดที่เกี่ยวข้อง

โดยทั้งนี้ มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นได้ยึดหลักฐาน และทรัพย์สินที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจำนวนหลายรายการ การเข้าตรวจค้นสถานที่ที่มีความเกี่ยวข้องกับอดีตรอง ผบ.ตร. ครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 20.00 น. ของวันที่ 23 ธ.ค. ที่ผ่านมา คณะทำงานสืบสวนสอบสวนของ ตร. ได้เข้าแจ้งความที่ กก.5 บก.ปปป. เพื่อดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และข้อหาอื่นๆ

เหตุเกิดที่อาคารชั้น 2 แขวงจันทร์เกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ และที่บริเวณลานจอดรถยนต์สมาคมชาวปักษ์ใต้ ถนนกาญจนาภิเษก แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2567 ต่อเนื่องวันที่ 1 ก.ย. 2567 เวลากลางวัน โดยมีผู้ถูกกล่าวหา จำนวน 6 ราย

...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดสืบสวนในนาม ตร. ได้ให้การว่า เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2567 พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ได้ให้ พ.ต.อ.นายหนึ่ง เข้ามาพบที่สำนักงานอาคารชั้น 2 เมื่อมาถึงพบ นาย สม. อยู่ที่สำนักงานอยู่ก่อนแล้ว พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ. นำทองคำแห่งไปมอบให้บุคคลใน ป.ป.ช. ในวันรุ่งขึ้น (1 ก.ย. 2567) เพื่อวิ่งเต้นช่วยเหลือทางคดี ซึ่งอยู่ในชั้นไต่สวนของ ป.ป.ช. โดยแจ้งว่าได้พูดคุยตกลงกับ บุคคลใน ป.ป.ช. ไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนสถานที่จะแจ้งให้ทราบภายหลัง พร้อมกำชับให้ถ่ายคลิปวิดีโอในขณะส่งมอบทองคำแท่งไว้ด้วย

จากนั้น พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ได้สั่งการให้ นาย สม. นำทองคำแท่งที่เตรียมไว้ นำมามอบให้กับ พ.ต.อ. เมื่อได้รับทองคำแท่งแล้ว พ.ต.อ. ได้เดินทางกลับมาถึงที่พัก ได้เปิดกล่องออกดูพบทองคำแท่ง บรรจุอยู่ในกล่องกระดาษ จำนวน 2 กล่อง รวมน้ำหนัก 246 บาท จึงถ่ายวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน

ต่อมาวันที่ 1 ก.ย. 2567 พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ได้สั่งการให้นำทองคำแท่งไปมอบให้ บุคคลใน ป.ป.ช. ที่สมาคมชาวปักษ์ใต้ ถนนกาญจนาภิเษก พ.ต.อ. กับพวก จึงได้เดินทางไปรออยู่แถวบริเวณใกล้กับสมาคมชาวปักษ์ใต้

ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ได้โทรศัพท์มาแจ้งให้ พ.ต.อ. ทราบว่า บุคคลใน ป.ป.ช. นั่งมาในรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลพาร์ด สีดำ และจอดรถรออยู่ที่ลานจอดรถของสมาคมชาวปักษ์ใต้แล้ว ให้นำทองคำแท่งไปมอบให้ได้เลย

พ.ต.อ. กับพวก จึงขับรถวนไปยังจุดหมาย พบรถยนต์ตู้คันดังกล่าวจอดอยู่ที่ลานจอดรถเพียงคันเดียว จึงได้ถือกระเป๋าที่บรรจุทองคำแท่งจำนวนดังกล่าว ลงจากรถเดินไปที่รถยนต์ตู้ มองเข้าไปในรถยนต์พบว่ามี บุคคลใน ป.ป.ช. นั่งอยู่บริเวณเบาะหลังคนขับ ก่อนยื่นกระเป๋าใส่ทองคำแท่ง ให้กับ นาย ส. เพื่อมอบให้กับ บุคคลใน ป.ป.ช. ตามที่ได้รับคำสั่งมา เมื่อได้รับกระเป๋าใส่ทองคำแท่งแล้ว รถตู้คันดังกล่าวได้ขับออกไปจากบริเวณดังกล่าวทันที

ต่อมาเมื่อเวลา 20.30 น. พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก ได้เดินทางมายังอาคารพิทักษ์สันติ ก่อนขึ้นไปยัง ชั้น 16 ซึ่งเป็นที่ทำการของกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) จากนั้นพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ได้เชิญตัวเข้าห้องประชุม เบื้องต้นยังไม่ยอมให้การกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จนกระทั่ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เดินทางมาถึง พร้อมกับแสดงตัวว่า เป็นรองหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนในคดีนี้ ซึ่งแต่งตั้งโดยคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ยอมรับฟังตามขั้นตอน

หลังจากนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้ออกมากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ได้แจ้งขั้นตอนการแจ้งข้อหากับ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ และเมื่อมาพบกับพนักงานสอบสวนแล้ว จะแจ้งข้อกล่าวหาตามหลักฐานที่พนักงานสอบสวนพบ จากนั้น พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ แจ้งว่าจะขอให้การตามข้อเท็จจริง ประกอบกับให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป.