ผบช.น.ยันมือยิงบนทางด่วน เป็นคนธรรมดา ไม่ใช่นักการเมือง ปมขับรถปาดหน้ากัน

"บิ๊กหยาม" ผบช.น.ร่วมประชุมคดีคนขับอัลพาร์ดประกบยิงหนุ่มขับเก๋งเสียชีวิตบนทางด่วน ยันคนร้ายเป็นเพียงบุคคลธรรมดา ไม่ได้เป็นนักการเมืองหรือบุคคลที่มีชื่อเสียง หลบหนีไปทางถนนพุทธมณฑลสาย 7 มุ่งหน้าลงใต้ ก่อนเกิดเหตุได้ขับปาดหน้ากันมา

เมื่อเวลา 04.50 น.วันที่ 23 ธ.ค. ร.ต.อ.นพดล หอมสมบัติ รอง สว.(สอบสวน) สน.ประชาชื่น รับแจ้งเหตุชายถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิตภายในรถยนต์ บริเวณหลังด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษศรีรัช ด่านประชาชื่น ฝั่งขาเข้า แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ จึงไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.2 พ.ต.อ. ศักดิเดช กัมพลานุวงศ์ ผกก.สน.ประชาชื่น กำลังสายตรวจและฝ่ายสืบสวน สน.ประชาชื่น เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ และอาสาฯมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุห่างจากด่านเก็บค่าผ่านทางประมาณ 500 เมตร บริเวณเชิงสะพานข้ามถนนประชาชื่น พบรถเก๋ง โตโยต้า อัลติส สีขาว ทะเบียน กฉ 9303 สระแก้ว จอดอยู่กลางถนน กระจกประตูด้านคนขับเปิดอยู่ บนเบาะฝั่งคนขับพบศพนายอนุวรรตน์ ญาตินิยม อายุ 34 ปี มีบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงทะลุลำคอ 1 นัด เลือดกระจายเต็มรถ ใกล้กันพบ น.ส.สาวิตรี อายุ 28 ปี แฟนสาวผู้ตายยืนร่ำไห้แทบขาดใจในสภาพร่างกายเปื้อนเลือด

จากการสอบถาม น.ส.สาวิตรี ให้การว่า แฟนมีอาชีพขับรถโบลท์ ก่อนเกิดเหตุขับรถมารับตนจากห้องพักอ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อไปที่บ้านย่านเพชรเกษม เมื่อมาถึงด่านเก็บค่าผ่านทางประชาชื่น ได้มีรถยนต์ตู้ โตโยต้า อัลพาร์ด สีขาว ขับมาฝั่งซ้ายและพยายามเบี่ยงเลนกะทันหันเข้าด่านเก็บเงิน ตนบอกให้แฟนหนุ่มชะลอรถเพื่อให้รถตู้อัลพาร์ด ไปก่อน หลังจากผ่านด่านเก็บเงิน ตนเห็นรถตู้อัลพาร์ดขับชะลออยู่ ขณะที่แฟนขับรถขึ้นสะพาน จู่ๆรถอัลพาร์ดได้ขับมาประกบด้านขวา และได้ลดกระจกประตูซ้ายลง แล้วใช้อาวุธปืนยิงใส่แฟน 3-4 นัด หลังก่อเหตุหลบหนีมุ่งหน้าไปทางหมอชิต

จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณด่านเก็บเงินทำให้ทราบว่ารถคันที่ก่อเหตุเป็นรถตู้โตโยต้า เวลไฟร์ สีขาว ทะเบียน 2 กผ 77798 กรุงเทพมหานคร เป็นรถของบริษัทเช่า ซึ่งมีนายธฤษณุ สังข์หิรัญ อายุ 48 ปี ชาวอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นผู้เช่ารายล่าสุด เดินทางมาจากหาดใหญ่มาทำธุระในกรุงเทพฯหลายวันแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน

ต่อมาเวลา 09.00 น.ที่ สน.ประชาชื่น พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.2 พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ศักดิเดช กัมพลานุวงศ์ ผกก.สน.ประชาชื่น พร้อมฝ่ายสืบสวนและพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าใช้เวลากว่า 1 ชม.

พล.ต.ท.สยาม ผบช.น. เปิดเผยว่า รถคันที่ก่อเหตุได้ขับปาดหน้ากันมากับรถของผู้เสียชีวิต ประมาณ 500 เมตรก่อนถึงด่านเก็บเงิน เมื่อถึงด่านเก็บเงินต่างคนต่างเข้าคนละช่อง แต่รถผู้ก่อเหตุเมื่อจ่ายเงินแล้วกลับชะลอรถรอรถผู้เสียชีวิตจ่ายเงินเสร็จ จากนั้นก็ขับประกบ ก่อนจะใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ขึ้นมายิงจำนวน 3 นัด เข้าที่ลำคอ 1 นัด และแขน 2 นัด แล้วหลบหนีไป ทำให้รถเสียหลัก แฟนผู้ตายจึงบังคับรถก่อนไปชนกับข้างทาง เบื้องต้น ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานและให้ฝ่ายสืบสวนทั้งสืบสวน บช.น. กก.สส.บก.น.2 และ สืบสวนสน.ประชาชื่น ติดตามรถคันที่ก่อเหตุ ขณะนี้ทราบว่าหลังก่อเหตุหลบหนีไปทาง ถนนพุทธมณฑลสาย 7 มุ่งหน้าลงใต้

พล.ต.ท.สยาม กล่าวอีกว่า ยังไม่สามารถระบุได้ว่าในรถคนร้ายมากันกี่คน ขอไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดก่อน ส่วนลักษณะการยิงไม่น่าใช่มืออาชีพ การยิงเป็นลักษณะกด เนื่องจากรถผู้ก่อเหตุ มีลักษณะสูงกว่าและเพิ่งผ่านด่านเก็บเงินมายังไม่มีความเร็ว แฟนผู้เสียชีวิตอ้างว่าเธอทะเลาะกับผู้เสียชีวิต และหนีมาบ้านเพื่อนย่านปากเกร็ด ส่วนผู้เสียชีวิตขับรถมาจากย่านเพชรเกษมเพื่อมารับเธอกลับบ้าน แต่ระหว่างทางเกิดเหตุเสียก่อน ตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนเดียวกับผู้ครอบครองรถหรือไม่ แต่ยืนยันเป็นเพียงบุคคลธรรมดา ไม่ได้เป็นนักการเมืองหรือบุคคลที่มีชื่อเสียง

คาดว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเหตุซึ่งหน้า แต่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งหากมีหลักฐาน หรือ พยานเพิ่ม ก็จะตรวจสอบทั้งหมดรวมถึงประวัติของผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุ