"นิติวิทย์–ดีเอสไอ" เข้าพื้นที่เรือนจำตรวจสอบข้อเท็จจริง "ห้องลับใต้บันได" แล้ว พร้อมเตรียมสั่ง "พักงาน–ออกจากราชการ" 20 เจ้าหน้าที่เอี่ยวคุก VIP
วันที่ 24 พ.ย. 2568 มีรายงานว่า บรรยากาศหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีผู้สื่อข่าวหลายสำนักปักหลักติดตามความคืบหน้า กรณีตรวจพบความผิดปกติภายในเรือนจำ รวมถึง “ห้องลับใต้บันได” ที่อยู่ระหว่างการสืบสวน โดยเจ้าหน้าที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกรมราชทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้เข้าพื้นที่เพื่อตรวจเก็บพยานหลักฐานและสอบปากคำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นวันแรก
...
ทางด้าน นายยุทธนา นาคเรืองศรี รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ และรักษาการ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เผยว่า ขณะนี้มีการประสานสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อสนับสนุนการตรวจเก็บพยานวัตถุในห้องลับใต้บันได ซึ่งถูกซีลพื้นที่ไว้แล้ว โดยผลตรวจจะถูกส่งให้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงพิจารณา
ทั้งนี้ คาดว่าระหว่างวันที่ 25–26 พ.ย. 2568 พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จะออกแถลงการณ์ความคืบหน้ากรณี เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครจำนวน 20 ราย ที่ถูกสั่งย้ายหลังพบหลักฐานเชื่อมโยงการกระทำผิดหลายประเด็น โดยมีความเป็นไปได้ว่าคำสั่งย้ายอาจถูกปรับเปลี่ยนเป็น “พักราชการ” หรือ “ให้ออกจากราชการไว้ก่อน” เนื่องจากพยานหลักฐานเริ่มชัดเจนมากขึ้น รวมถึงพบข้อมูลว่าบางรายมีการเดินทางไปมาเก๊าโดยไม่รายงานให้ต้นสังกัดทราบ
ทางด้าน พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ รองอธิบดีดีเอสไอ เผยว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอกำลังสอบสวนข้อมูลเกี่ยวกับการเยี่ยมญาติ การรับ–โอนเงิน การเบิกตัวผู้ต้องขังจากแดน และธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้อง พร้อมตรวจสอบคำให้การของเจ้าหน้าที่ทั้ง 20 ราย ผู้ต้องขังชาวจีน 2 ราย รวมถึงหญิงสาวชาวจีน 2 รายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หากพบประเด็นที่ต้องสอบสวนเพิ่ม ดีเอสไอเตรียมออกหมายเรียกเจ้าหน้าที่เรือนจำทั้ง 20 รายอีกครั้ง
ทั้งนี้ ดีเอสไอยังเตรียมประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อตรวจสอบประวัติการเดินทางเข้า–ออกประเทศของ นายมานพ ชมชื่น อดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร พร้อมพิจารณาประเด็นทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งอยู่ในอำนาจตรวจสอบของ ป.ป.ช. ว่ามีรายการใดผิดปกติหรือไม่ โดยคดีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนสืบสวนว่ามีการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ในเวลา 09.35 น. รถตู้ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ 2 คัน ได้เดินทางเข้าสู่ภายในเรือนจำเพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ขณะที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้เข้าไปก่อนหน้านั้นไม่นาน กระบวนการตรวจสอบยังคงดำเนินอย่างเข้มข้นเพื่อคลี่คลายข้อเท็จจริงในเหตุการณ์อื้อฉาวภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครครั้งนี้.